posttoday

เมาหมัดปาล์มราคาตก

07 พฤศจิกายน 2561

เรียกว่า เร่งมือกันโค้งสุดท้าย ในมาตรการช่วยพยุงราคาน้ำมันปาล์มดิบที่ตกต่ำ

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

เรียกว่า เร่งมือกันโค้งสุดท้าย ในมาตรการช่วยพยุงราคาน้ำมันปาล์มดิบที่ตกต่ำ

ล่าสุดกระทรวงพลังงานประกาศ 3 มาตรการเร่งด่วนเพื่อลดปริมาณปาล์ม

ที่เป็นมาตรการหลัก คือ การนำน้ำมันปาล์มดิบ 1.6 แสนตันมาเผาเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าราชบุรี และโรงไฟฟ้าบางปะกง เป็นระยะเวลา 3 เดือน

ปกติโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่ง ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง กรณีฉุกเฉินจะใช้น้ำมันดีเซล แต่คราวนี้จะมาใช้น้ำมันปาล์มดิบแทนดีเซล

ประเด็นที่ตามมาคือ การใช้น้ำมันปาล์มดิบจะทำให้ค่าไฟแพงขึ้น 20-30 สตางค์/หน่วย หรือคิดเป็นค่าไฟเฉลี่ย 3-3.20 บาท/หน่วย

หมายความว่าต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจะเพิ่มราว 1,000 ล้านบาท

เงินส่วนนี้รัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุน โดยนำงบกลางชดเชย 500 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 500 ล้านบาท จะเป็นการเกลี่ยจากค่าสายส่งที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะเป็นผู้รับผิดชอบ

คำถามก็คือวิธีเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่

คำตอบก็คือ ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไร เพราะการนำน้ำมันปาล์มดิบมาเผา มันทำให้โครงสร้างค่าไฟบิดเบี้ยว มีภาระที่ต้องชดเชย

แต่ถ้าถามถึงความจำเป็น ก็ต้องบอกว่าไม่มีวิธีใดดีกว่านี้

เพราะการจะเข้าไปซื้อน้ำมันปาล์มดิบพยุงราคาเป็นสิ่งไม่ควรทำ ไหนจะต้องมีค่าเก็บ ค่าดูแลรักษา แถมยังรั่วไหลได้ง่ายๆ

สู้ซื้อแล้วเอามาเผา มีส่วนต่างก็ชดเชยไป ปัญหาน้อยลงไปเยอะ

ที่น่าแปลกก็คือ ทำไมถึงเพิ่งมาคิดได้หนอ

ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก็มีข่าวทำนองจะเอาน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตไฟฟ้า เพื่อดึงราคาผลปาล์มสด

แต่กระทรวงพลังงานนี่แหละ ที่ออกมาปฏิเสธว่าไม่จริ๊ง ไม่จริง

ไม่เชื่อไปดูเว็บไซต์กระทรวงพลังงานได้ ยังมีข่าวนี้คาอยู่ในช่วงเดือน ม.ค.เมื่อต้นปี

เนื้อหาของข่าวก็คือ ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลที่ตั้งใจให้เข้าใจผิด ทำนองรัฐบาลมีนโยบายให้โรงไฟฟ้ากระบี่นำน้ำมันปาล์มมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า กระทรวงพลังงานขอชี้แจงว่า ข้อมูลที่เผยแพร่ดังกล่าวไม่เป็นความจริง

ข้อเท็จจริงคือ รัฐบาลมีมติไม่ให้นำน้ำมันปาล์มดิบมาเผาที่โรงไฟฟ้า เพราะเป็นมาตรการที่ช่วยเกษตรกรได้เพียงเล็กน้อย

ส่วนผลเสียหายคือประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพง มากกว่าประโยชน์ที่ได้รับกว่า 10 เท่า

มาตรการที่กระทรวงพลังงานออกมาในขณะนั้นเพื่อช่วยลดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ จึงมีเพียงเร่งรัดให้โรงงานผลิตไบโอดีเซลเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบในการผลิตไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นกว่าปกติ

นั่นคือสิ่งที่บอกไว้ต้นปี

แต่เวลาผ่าน ฤดูเปลี่ยนทุกอย่างก็กลับทิศกลับทาง

เอาละไม่ว่ากัน แต่ถ้าให้ดี ลบข่าวเก่าออกไปบ้างเถอะ

เพราะอ่านไปอ่านมาไม่รู้ว่าหลักการที่แท้จริงจะเอาอย่างไร

ไปซ้ายที ขวาทีแบบนี้ อาการเหมือนคนเมาหมัดชอบกล