posttoday

ดูเศรษฐกิจโลกด้วย GDP ฉบับมือใหม่

30 ตุลาคม 2561

หลายคนคงจะเคยได้ยินคำนี้กันบ่อยๆ ว่าแต่ GDP นั้นคืออะไร สำคัญอย่างไร และในด้านตัวเลขจริงๆ มาจากไหนบ้าง

เรื่อง ภวิกา กาญจนธำมรงค์

สวัสดีค่ะ กลับมาพบ Get Wealth Soon กันอีกครั้งใน FINNOMENA Insight วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปรู้จักปัจจัยทางเศรษฐกิจตัวหนึ่งที่สำคัญค่ะ หากจะพูดถึงเศรษฐกิจในภาพรวม สิ่งที่ควรจะต้องทำความเข้าใจ และรู้จักเป็นตัวแรก คงหนีไม่พ้น “ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ” หรือ GDP นั่นเอง เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินคำนี้กันบ่อยๆ ว่าแต่ GDP นั้นคืออะไร สำคัญอย่างไร และในด้านตัวเลขจริงๆ มาจากไหนบ้าง เราจะเล่าให้ฟังค่ะ

GDP คืออะไร?

GDP ย่อมาจาก Gross Domestic Product หรือแปลเป็นไทยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ แปลจากไทยเป็นไทยอีกที คือ การที่นับรายได้ที่เกิดขึ้นจากในประเทศเท่านั้น ไม่ว่าจะสัญชาติใดก็ตาม (ยกตัวอย่าง GDP ที่ประเทศไทย จะนับเฉพาะรายได้ที่เกิดขึ้นในไทยเท่านั้น ถ้าเป็นคนไทย แต่มีรายได้ที่ต่างประเทศ ไม่นับนะจ๊ะ อันนั้นเรียก GNP : Gross National Product ที่จะนับเฉพาะรายได้จากคนไทยเท่านั้น ไม่ว่าจะอยู่ประเทศใดก็ตาม)

ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

C = Consumption คือ การบริโภคของภาคเอกชนและประชาชน เป็นการจับจ่ายใช้สอยทั่วไป เช่น ค่าอาหาร สาธารณูปโภค เป็นต้น I = Investment คือ การลงทุนของภาคเอกชน ในการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ ถนนทางเดิน รถไฟฟ้า ฯลฯ G = Government Spending คือ การใช้จ่ายของรัฐบาล หรือการลงทุนภาครัฐ ตามนโยบายต่างๆ X = Export คือ การส่งออก (ขายสินค้าให้กับต่างประเทศ) M = Import คือ การนำเข้า (รับสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย)

มีสมการด้วยนะ

GDP = C+I+G+(X-M)

ทำไมต้องเขียนว่า X-M? การเขียนแบบนี้หมายถึง Net Export เป็นการดูมูลค่าการส่งออกสุทธิ เปรียบเหมือนการส่งออก คือ “รายได้” การนำเข้า คือ “รายจ่าย” เราอยากรู้ว่าตัวเองเหลือเงินเท่าไหร่ เป็นบวกหรือไม่ ต้องนำรายได้หักรายจ่ายออก

มาดูตัวอย่างจริงเลยดีกว่า มาเจาะลึกกันต่อว่า เพิ่มขึ้นมาจากอะไร จากบางตัวใน C, I, G, X-M หรือจากทั้งหมดเลย

จากภาพข้อมูลจาก Trading Economics เป็นตัวเลข GDP ที่เกิดขึ้นจริงๆ ในประเทศไทย โดยปกติจะมีการประกาศทุกไตรมาส และเมื่อเทียบในไตรมาสเดียวกัน จะเห็นว่าตัวเลข GDP สูงขึ้นมา แปลว่าประเทศไทยเรามีเศรษฐกิจที่แข็งแรง มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ให้ข้อมูล GDP ในไตรมาส 2 ปี 2561 ว่า 1.การบริโภคภาคเอกชน (C) มีการเติบโตขึ้น (เทียบกับไตรมาสแรก) เป็น 4.5% (3.7%) ขยายตัวจากการใช้จ่ายหมวดสินค้าคงทน และยอดขายรถยนต์นั่งที่โตขึ้น 2.การลงทุนภาคเอกชน (I) มีการเติบโตขึ้น (เทียบกับไตรมาสแรก) เป็น 3.2% (3.1%) ขยายตัวจากการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร และหมวดก่อสร้าง 3.การลงทุนภาครัฐ (G) มีการเติบโตขึ้น (เทียบกับไตรมาสแรก) เป็น 4.9% (4.0%) ขยายตัวจากการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ และ 4.การส่งออกสินค้าและภาคบริการ (X) มีการเติบโตขึ้น (เทียบกับไตรมาสแรก) เป็น 6.4% (6.0%) ขยายตัวเกือบทุกหมวดสินค้าในอุตสาหกรรมหลัก

จึงทำให้ GDP ในไตรมาส 2 ปี 2018 โตขึ้นมาเป็น 4.6% เทียบกับไตรมาสนี้ในปีที่แล้วอยู่ที่ 3.9% ทำให้เห็นว่าในปีนี้ เศรษฐกิจไทยค่อนข้างเติบโตได้ดีเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเป็นบวกในช่วงต้นของไตรมาส 3ได้นั่นเอง และนี่ก็คือวิธีการอ่าน “ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ” หรือ GDP แบบง่ายๆ ค่ะ

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"