posttoday

ซ้ำรอยแน่

30 กันยายน 2561

จะได้เรื่องหรือไม่กับสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ

โดย กัปตัน ป.
 
จะได้เรื่องหรือไม่กับสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ที่เพิ่งจัดตั้งใหม่ตามมาตรา 44 เหตุผลที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งตั้ง ป.ย.ป. เพราะเป็นห่วงว่าสิ่งดีๆ ที่รัฐบาลและ คสช.ได้ทำไว้ เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดองจะมลายหายไปเมื่อรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง เดือน ก.พ. 2562 เข้ามาแล้วจะมาล้มกระดาน
 
ดังนั้น จึงอยากมีสิ่งที่เป็นหลักประกันให้อยู่ถาวร จึงตั้ง ป.ย.ป.ขึ้น มีหน้าที่สำคัญ คือ ทำหน้าที่บูรณาการ กลั่นกรองข้อมูล และช่วยเหลือชาวบ้านด้วยการรับเรื่องราวร้องเรียน และตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า กระทรวง ทบวง กรมใดไม่ทำตามแผนยุทธศาสตร์และแผนการปฏิรูป แถม ป.ย.ป.อาจต้องทำหน้าที่รับหน้าเสื่อหากมีการชุมนุมคัดค้านนโยบาย หรือโครงการที่ขัดในแผนยุทธศาสตร์ชาติและปฏิรูป
 
อย่างไรก็ตาม ต้องขีดเส้นใต้เอาไว้ว่า ป.ย.ป.ไม่มีอำนาจสั่งการ ข้าราชการกระทรวง ทบวง กรมใดเลย มีเพียงหน้าที่คอยติดตามผล ประสานงาน และช่วยแก้ปัญหาในบางเรื่อง สำหรับกำลังคนที่จะเข้ามาทำงานมาจาก 3 หน่วยงานที่ถูกยุบไปแล้ว คือ สำนักงานสภาพัฒนาการเมือง สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศ.) และคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย
 
ดูไปดูมา ป.ย.ป.กำลังทำหน้าที่คล้ายๆ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เคยตั้งขึ้นเมื่อปี 2544 สมาชิกจำนวน 99 คน ซึ่งได้รับเลือกจากบุคคลที่เป็นตัวแทนของกลุ่มในภาคเศรษฐกิจ 50 คน และกลุ่มในภาคสังคมฐานทรัพยากรและผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 49 คน รวมทั้งมีคณะทำงานด้านต่างๆ อีก 13 คณะ ยุคแรกมี อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีหน้าที่เสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายด้านต่างๆ ให้กับรัฐบาล พร้อมกับทำหน้าที่ติติงหากมีเรื่องหรือนโยบายใดจะสร้างผลกระทบต่อสังคม
 
ต่อมาเป็นยุคของ โคทม อารียา เป็นประธาน จนมาเมื่อเกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 สภาที่ปรึกษาฯ ยังคงดำเนินงานต่อไปภายใต้ พ.ร.บ.สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543 แต่บทบาทของสภาที่ปรึกษาฯ ในการให้ข้อเสนอแนะด้านต่างๆ กลับไม่มีพลังราวกับเสือกระดาษ ด้วยเหตุผลทางการเมือง อาทิ เกิดความขัดแย้งกันระหว่างสมาชิกในการช่วงชิงตำแหน่งภายใน ไม่ได้รับความร่วมมือจากภาคราชการในการให้ข้อมูล เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดบทลงโทษ โดยเฉพาะฝ่ายบริหารทั้งคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ไม่ให้ความสำคัญ ทำให้ข้อเสนอแนะต่างๆ ไม่ได้รับการปฏิบัติ หรือไร้น้ำหนัก
 
ที่สำคัญ ถูกสังคมตั้งข้อกังขา เรื่องสมาชิกบางกลุ่มเข้ามาทำหน้าที่เพื่อใช้ตำแหน่งไปสร้างความสัมพันธ์กับฝ่ายการเมือง แถมยังถูกตั้งข้อสังเกตการใช้งบประมาณไม่คุ้มค่ากับการทำหน้าที่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเหตุใดสภาที่ปรึกษาฯ ไม่ค่อยมีบทบาท ยิ่งในช่วงเกิดวิกฤตการเมืองจนในที่สุดถูกมาตรา 44 ยุบ
 
ความขัดแย้งภายใน ความชัดเจนในการทำหน้าที่ การได้รับความร่วมมือจากภาคราชการ หรือจุดยืนในการสะท้อนปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคม หรือสิ่งแวดล้อม ฯลฯ โดยปราศจากการแอบอิงนัยทางการเมือง นี่ต่างหากคือ เรื่องสำคัญที่ ป.ย.ป.จะถูกท้าทาย แค่เรื่องปฏิรูปตำรวจเรื่องเดียว ป.ย.ป.จะสามารถทำได้สำเร็จหรือไม่ 

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมซีเกมส์ 2025 วันนี้ 14 ธ.ค. 68 ลิ้งก์ดูสด ถ่ายทอดสดช่องไหน