เตรียมใจยุคภาษีอาน
แก่ก่อนรวย ตามมาด้วยความซวย ตรงที่เงินหมดแล้วยังไม่ตาย สิ่งสำคัญกว่านั้น คือสภาพสังคมผู้สูงอายุจะต้องเผชิญกับภาษีอาน
โดย..ณ กาฬ เลาหะวิไลย
เพียงชั่วเวลาไม่นานนัก คืออีก 3 ปี จากนี้ สังคมไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ
เท่าที่ประเมินในปี 2564 จะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป สัดส่วนสูงถึง 20% ของประชากร
ประเด็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นอย่างที่รู้กันก็คือ สภาพแก่ก่อนรวย
อัตราการออมของคนไทยต่ำเกินไป โดยเฉพาะการออมเงินจะเริ่มต้นในปลายๆ ของการทำงาน อายุ 50-59 ปี ซึ่งถือว่าผิดหลักการออม
ขณะที่อายุระหว่าง 25-40 ปี ที่เป็นวัยที่ต้องออมเงินกลับเป็นวัยที่ใช้เงินจับจ่ายกันอย่างเต็มที่
แก่ก่อนรวย จึงมักจะตามมาด้วยความซวย ตรงที่เงินหมดแล้วยังไม่ตาย
และสิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ สภาพสังคมผู้สูงอายุจะต้องเผชิญกับภาษีอาน จากคนวัยทำงานลดน้อยลง แต่คนวัยสูงอายุมีมากขึ้น
ในปี 2564 สัดส่วนคนวัยทำงานกับสัดส่วนผู้สูงอายุอยู่ที่ 4 ต่อ 1 คือคนทำงาน 4 คน ต่อผู้สูงอายุ 1 คน
แต่ในอีก 10 ปี ถัดไป คือในปี 2574 สัดส่วนจะเป็น 1 ต่อ 1
หมายความว่า คนวัยทำงาน 1 คน ต้องแบกภาระผู้สูงอายุ 1 คน และแบกรับภาระเด็กที่กำลังเติบโตควบคู่กันไปด้วย
ความเสี่ยงในการเก็บภาษีจะไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายก็จะตามมา
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือญี่ปุ่น ที่เป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ
แม้ญี่ปุ่นจะเป็นสังคมที่มีการออมมหาศาล แต่ทว่า รายได้ของรัฐบาลก็ไม่พอเพียงกับการใช้จ่าย
สุดท้ายก็มาลงเอยที่การเก็บภาษี
เมื่อปี 2557 ญี่ปุ่น ปรับขึ้นภาษีอุปโภคบริโภค หรือในไทยก็คือภาษีมูลค่าเพิ่มนั่นเอง จากอัตรา 5% เป็น 8% เพื่อแก้ปัญหาการคลังของรัฐ โดยเฉพาะปัญหาหนี้สาธารณะ
การขึ้นภาษีครั้งนั้น ถือว่าเป็นการขึ้นภาษีที่เกี่ยวกับการบริโภคครั้งแรกในรอบ 17 ปี
แต่แม้ว่าจะขึ้นภาษีไปแล้ว เงินที่เข้าคลังก็ยังไม่เพียงพออีก
รัฐบาลญี่ปุ่น ตั้งเป้าจะขึ้นภาษีอีกให้อยู่ที่ระดับ 10% ในเดือน ต.ค. 2558 หรืออีก 1 ปีถัดมา
ทว่าสถานการณ์ไม่เป็นใจ จึงต้องเลื่อนไปเป็นเดือน เม.ย. 2560 ก่อนที่จะประกาศชะลอแผนขึ้นภาษีอีก
สาเหตุเนื่องจากการขึ้นภาษีครั้งแรกทำให้เศรฐกิจของญี่ปุ่นตกอยู่ในภาวะเงินฝืด ชาวญี่ปุ่นหยุดการใช้จ่ายไปชั่วระยะ เมื่อผสมกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ต้องเลื่อนแผนการขึ้นภาษี
แต่ล่าสุด รัฐบาลญี่ปุ่นยันยืนขึ้นภาษีเป็น 10% ในเดือน ต.ค. 2562 ยกเว้นปัญหาทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หรือเหตุการณ์รุนแรงเช่นแผ่นดินไหว วิกฤตทางการเงิน
ภาระทางสังคมที่คนจำนวนน้อย ต้องแบกรับจากสังคมผู้สูงอายุ จึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ต้องเกิดขึ้นในบ้านเรา
ที่เริ่มเห็นกันแล้ว อาทิ ข้อเสนอในการเก็บเงินประกันสังคมเพิ่มเติม การยืดอายุเบี้ยคนชรา ฯลฯ
เตรียมใจรับยุคภาษีอานกันหรือยัง