posttoday

เร่งฝีเท้าแต่ไม่ควบ

20 สิงหาคม 2561

เป็นอันเรียบร้อยสำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ชุดใหม่ 5 คน

โดย..ทองพระราม 

เป็นอันเรียบร้อยสำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ชุดใหม่ 5 คน ภายหลังเข้าพิธีรับสนองพระราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา

แน่นอนว่าจากนี้ กกต.ชุดใหม่ จะเข้ามารับไม้ต่อจาก กกต.ชุดเก่า ในการทำหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้

โดยปัญหาสำคัญที่ถกเถียงและติดค้างกันมานานระหว่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) รวมถึง กกต. คือ การแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งจำนวน 616 คน จนกลายเป็นวิวาทะถึงความเหมาะสม

เรื่องนี้เป็นที่มาให้เกิดการทำแบบสำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 และเกิดปมการปั่นกระแสหนุน-ค้าน ในเว็บไซต์ของสภาแบบยอดทะลักถล่มทลายเพียงไม่กี่วัน

แต่นับว่าเป็นข่าวดีตรงที่ ล่าสุด สนช.ที่เข้าชื่อขอแก้ไขยอมถอยด้วยการขอถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออก เพื่อไม่ให้ปัญหายืดเยื้อยาวนาน และปล่อยให้เป็นหน้าที่ กกต.ชุดใหม่ ดำเนินการตรวจสอบคัดสรรว่ารายชื่อทั้งหมดสมควรเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งหรือไม่

ถือว่าจบเรื่องนี้ได้ไปเปลาะหนึ่ง ที่เหลือจากนี้คงต้องรอดูต่อไป

แต่อีกหนึ่งปัญหาที่น่าจับตาไม่แพ้กันเห็นจะเป็นการแบ่งเขตเลือกตั้ง เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ แม้กระทั่งการทำไพรมารีโหวต เนื่องด้วยกฎหมายบางประการ

เหตุที่ต้องจับตา เพราะทุกเวลาเดินหน้าและล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว และอีกไม่กี่อึดใจการเลือกตั้งก็จะบังเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ตามโรดแมป คือ ปี 2562 ซึ่งรัฐบาลเคยประกาศไว้

นับเป็นนิมิตหมายอันดียิ่ง เนื่องด้วยรองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย วิษณุ เครืองาม จะเข้าหารือ กกต.ชุดใหม่ วันนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการทำงาน

คาดการณ์ว่าประเด็นหนึ่งที่จะถูกหยิบยกมาหารือ คงหนีไม่พ้นการทำไพรมารีโหวต ซึ่งถูกจับตาจากฟากการเมืองแบบไม่ลดละว่าจะสามารถหาจุดร่วมได้อย่างไร

ทั้งนี้ เนื่องด้วยเวลาและกฎหมายบางประการยังค้ำคออยู่ จึงต้องมาติดตามดูว่าประเด็นนี้จะลงเอยแบบไหน อย่างไร เพื่อเป็นจุดกึ่งกลาง และทางออกในเรื่องนี้

เมื่อเวลาไม่คอยท่า ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ดังนั้น ควรจะหาหนทางที่ดีไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ หากนิ่งนอนใจและประวิงเวลาให้ทอดออกไป เกรงว่าอาจจบไม่สวยงาม

แม้เรื่องนี้เข้าใจได้ว่าต้องทำอย่างรอบคอบ หากเร่งทำไปอาจไม่ได้พร้าเล่มงาม แต่ด้วยเวลาและทำนองปี่กลองบรรเลง ใกล้เข้าท่อนจบมาทุกขณะหายใจเข้าออก

จึงควรเร่งฝีเท้าขึ้นมาอีกนิด แต่ไม่ใช่ควบและอาจต้องทุ่มเทให้หนักกว่าที่เป็นอยู่ เพื่ออนาคตและโอกาสของประเทศชาติ

มิเช่นนั้นแล้ว หากการเลือกตั้งต้องถูกเลื่อนออกไป เพียงเพราะปัจจัยที่สามารถดำเนินการแก้ไขได้แต่กลับปล่อยเอาไว้ คงยากต่อการอธิบายให้นานาชาติที่กำลังติดตามมองประเทศไทยอยู่ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้

แทบไม่ยากนึกภาพเลยว่าหากการเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอีก การเมืองไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป