posttoday

หุ้นทองคำเศรษฐกิจใหม่

10 สิงหาคม 2561

ธุรกิจในยามนี้กลายเป็นสมรภูมิแห่งการ Disruption หรือถูกรุกรานด้วยผู้เล่นหน้าใหม่ๆ 

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

ธุรกิจในยามนี้กลายเป็นสมรภูมิแห่งการ Disruption หรือถูกรุกรานด้วยผู้เล่นหน้าใหม่ๆ 

จากปลาใหญ่กินปลาเล็ก ก็กลายเป็นปลาเร็ว กินปลาช้า

ไม่ว่าเคยใหญ่แค่ไหนในอดีต ก็อาจพังพาบได้เช่นกัน

และจุดสำคัญที่ทำให้บรรดาปลาเร็ว แข็งแรง มีพลังขึ้นมา ก็เนื่องจากระบบทุนนิยมนั่นเอง

กิจการที่ดูดี มีอนาคต จะได้รับเงินทุนได้ง่ายขึ้น จากการร่วมลงทุน หรือกองทุนต่างๆ ที่เมียงมองหาบริษัทขนาดเล็ก ที่ดูดี มีอนาคต

จากนั้นแหล่งที่ระดมทุนได้มากสุด คือตลาดทุน หรือการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นั่นเอง

และแหล่งที่นิยมเข้าไประดมทุนคือที่ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange) มีอาคารตั้งอยู่มุมถนนวอลสตรีท จึงมักเรียกกันว่าตลาดหุ้นวอลสตรีท 

หุ้นเหล่านี้ จึงกลายเป็นหุ้นทองคำในยุค Disruption 

ใครลงทุนหุ้นที่ถูกตัว ก็รวยกับรวย

ตัวอย่างที่ยกกันขึ้นก็คือหุ้นอาลีบาบาของ แจ็ค หม่า ที่ปัจจุบันมีขนาดถึง 4.63 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ เกือบ 14 ล้านล้านบาท

ถ้าใครไปลงทุนซื้อหุ้นอาลีบาบาเอาไว้ เมื่อ 4 ปีก่อน ในช่วงเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่สหรัฐใหม่ๆ ในวงเงิน 1,000 ดอลลาร์ หรือราวๆ 3 หมื่นบาทเศษ สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้คือกำไร โดยมูลค่าหุ้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,902 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว

หรือเท่ากับกำไรเฉลี่ยปีละ 25%

แต่ถ้าเอาเงินจำนวนเดียวกันไปลงทุนใน อเมซอน กิจการค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ของโลก ผลตอบแทนของอเมซอนจะมากกว่า โดยมูลค่าหุ้นจะอยู่ที่ 5,576 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าตัว

เฉลี่ยแต่ละปี ผลตอบแทนก็มากกว่า 100%

ขณะเดียวกันถ้าไปลงทุนในกิจการไอโฟนอย่างซื้อหุ้น แอปเปิ้ล ในวงเงินเท่ากัน มูลค่าที่ได้จะเพิ่มเป็นราวๆ 2,000 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว ใกล้ๆ กับกิจการอาลีบาบา

แล้วถ้าลองไปลงทุนในกิจการอื่น อาทิ หุ้นกิจการรถยนต์เทสลา ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์สหรัฐเมื่อ 6 ปีก่อน ในวงเงิน 1,000 ดอลลาร์เช่นกัน เวลาผ่านไปปรากฏว่าผู้ลงทุนจะได้รับ 2.2 หมื่นดอลลาร์เศษ หรือรวมแล้วเพิ่มขึ้นกว่า 21 เท่า

ทั้งหมดแสดงให้เห็นทิศทางโลกที่เปลี่ยนแปลงไป 

กิจการใหญ่ๆ ในโลกนี้ กำลังมุ่งสู่กิจการที่เป็น New Economy หรือเศรษฐกิจใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐ ยุโรป หรือแม้กระทั่งจีน

ส่วนกิจการในระบบเศรษฐกิจเดิม หรือ Old Economy บางแห่งก็ยังคงอยู่ แต่ต้องมีการปรับตัว ขณะที่หลากหลายกิจการต้องล้มหายตายจากไป 

กระแสการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เมื่อเกิดขึ้นก็ยากจะเปลี่ยนแปลง 

ถ้าใครอยากทำงานท้าทาย ก็ต้องไปหากิจการที่อยู่ใน New Economy  

หากใครต้องการลงทุน ให้ผลตอบแทนงดงาม ก็ต้องไปหาธุรกิจที่เกี่ยวพันกับ New Economy อีกเช่นกัน

นี่แหละหนอ ที่ว่าอะไรๆ ก็ไม่เที่ยง

แม้ในโลกธุรกิจก็เป็นเช่นกัน มันเป็นอย่างที่เห็น