เรื่องที่ห้ามกะพริบตา
ไปๆ มาๆ กลายเป็นเรื่องที่ต้องจับตาแล้ว กับสถานการณ์ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ไปๆ มาๆ กลายเป็นเรื่องที่ต้องจับตาแล้ว กับสถานการณ์ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
เรื่องที่กำลังกลายเป็นเรื่องก็คือการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2559 ที่คาราคาซังอยู่
ประเด็นล่าสุดที่จะก่อให้เกิดผลตามมาก็คือการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ยอมรับว่าบุตรชายเคยนัดพบทนายสาวชาวรัสเซียที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตซึ่งเป็นคู่แข่ง
ทรัมป์ยืนยันไม่มีอะไรผิดกฎหมาย และเป็นสิ่งที่ทำกันเป็นปกติในแวดวงการเมือง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ อ้างมาโดยตลอดว่าการที่ลูกชายพบทนายรัสเซียเป็นเรื่องที่ชาวอเมริกันจะรับอุปถัมภ์เด็กรัสเซีย
ดังนั้นจึงถือเป็นครั้งแรกที่ยอมรับถึงการพบปะ ที่เกี่ยวพันกับการเมือง
แต่ทรัมป์ ยังย้ำว่าไม่ทราบล่วงหน้า ว่าจะมีการพบปะเกิดขึ้น พร้อมปฏิเสธรายงานข่าวถึงความวิตกกังวล เกี่ยวกับประเด็นโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายคนโต อาจถูกดำเนินคดีจากการนัดพบ นาตาเลียวาเซลนิตสกายา ทนายสาวชาวรัสเซีย
การออกมายอมรับครั้งนี้ จึงจะเป็นประเด็นให้ติดตามต่อไป ในทำนองการนัดพบทางการเมืองแม้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การพบกับทนายรัสเซีย ประเทศที่เป็นคู่ต่อกรกับสหรัฐ เป็นสิ่งไม่ปกติ
แน่นอนว่าในสหรัฐก็กำลังเกิดกระบวนการสอบสวน หาหลักฐานเพื่อเล่นงานทีมงานรวมถึงประธานาธิบดีทรัมป์เช่นกัน
ที่เป็นโต้โผหลัก อาทิ โรเบิร์ต มุลเลอร์ อัยการพิเศษ ที่สืบหาพยานหลักฐาน โดยเฉพาะการนัดพบที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2559 ระหว่าง ทรัมป์ จูเนียร์ และทีมหาเสียงคนอื่นๆ กับกลุ่มชาวรัสเซีย
ข้อมูลที่พบส่อแสดงให้เห็นว่า การที่บุตรชายคนโตของทรัมป์ นัดพบกับกลุ่มชาวรัสเซียเนื่องจากมีความเชื่อว่าจะได้ข้อมูลเด็ดๆ ที่เอาไปใช้เล่นงานคลินตัน
ซ้ำร้าย บรรดาคนในก็เริ่มให้ข้อมูลที่ชัดเจนออกมา อย่าง ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายส่วนตัวของทรัมป์เตรียมให้การต่อมุลเลอร์ ในทำนอง ทรัมป์รู้ล่วงหน้าถึงการที่ลูกชายจะไปพบใครที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ และด้วยจุดประสงค์ใด
ทั้งหมดจึงกลายเป็นปมการเมืองในสหรัฐที่น่าจะเพิ่มดีกรีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
และฟากประธานาธิบดีทรัมป์ คงต้องสู้ในทุกรูปแบบ เนื่องจากเดิมพันหน้าตักเริ่มมากขึ้น ขยายขอบเขตไปเรื่อยๆ
ศึกในของสหรัฐครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อการเมือง ต่อการเลือกตั้งในสหรัฐ ต่อตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ แต่ยังขยายผลต่อเนื่องถึงเศรษฐกิจโลก การเมืองโลกด้วยเช่นกัน
อย่าลืม นับตั้งแต่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี ก็สร้างปมปัญหา ราวีไปทั่วทุกหัวระแหง
งานนี้จึงเรียกได้ว่า เป็นการรวมมิตรรักแฟนเพลงทั่วสารทิศ คอยติดตาม
ผลสุดท้ายจะส่งเป็นอย่างไร จะทำให้เก้าอี้ทรัมป์ร้อนผ่าวเลยหรือไม่
เป็นสิ่งที่โลกต้องเอียงคอมอง เอียงหูฟัง