ส่งออกของจริง
ตัวเลขการส่งออกของเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา คงทำให้เกิดความหวังเศรษฐกิจในปีนี้จะวิ่งฉิว
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ตัวเลขการส่งออกของเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา คงทำให้เกิดความหวังเศรษฐกิจในปีนี้จะวิ่งฉิว
เพราะการส่งออกถือเป็นเครื่องยนต์หลักในการทำให้เศรษฐกิจขยายตัว หลังจากที่รัฐบาลใช้นโยบายการคลังในการกระตุ้นการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจมานาน
ขณะที่เครื่องยนต์อื่นๆ อาทิ การลงทุนภาคเอกชน การจับจ่ายใช้สอยของประชาชน เครื่องก็ยังไม่ติด เดินไม่ได้เต็มที่
สำหรับตัวเลขการส่งออกในเดือน มิ.ย. มีมูลค่า 21,799 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 8.2% เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16
สินค้าเกือบทุกกลุ่มยังขยายตัวได้ดี ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรม สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร
ขณะเดียวกันการส่งออกไปรายตลาดยังขยายตัวได้ดี ทั้งญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และจีน โดยเฉพาะตลาดสหรัฐ การส่งออกเดือน มิ.ย. สูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีมูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์
ทั้งหมดทำให้การส่งออกครึ่งปีแรกตั้งแต่เดือน ม.ค.-มิ.ย. มีมูลค่า 125,811 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 11% เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 7 ปี
มองอย่างนี้เป้าหมายการส่งออกในปีนี้ที่คาดว่าน่าจะขยายตัวระดับ 8% จึงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินไป
ถ้ามองไปไกลกว่าเดิม อย่างเช่นการที่จะทำให้การส่งออกขยายตัว 9% ในช่วง 6 เดือนที่เหลือจะต้องผลักดันการส่งออกให้ได้ 22,000 ล้านดอลลาร์ และถ้าจะให้ขยายตัว 10% ต้องส่งออกไม่ต่ำกว่าเดือนละ 22,414 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม การส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังอาจไม่ใช่เป็นอย่างที่คิด และต้องระวัง
สาเหตุหลักมาจากสงครามการค้าที่สร้างความระส่ำระสายไปทั่ว
ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับสหภาพยุโรป และสหรัฐกับจีน
อย่าลืมว่าสงครามที่เกิดขึ้นเพิ่งปะทุกันในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และกำลังขยายวงออกไปเรื่อยๆ
นั่นหมายความว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเริ่มตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป
ตัวเลขการส่งออกที่สดใสในช่วงครึ่งปีแรก เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนสงครามการค้า
ในช่วงต่อไปจึงมีปัจจัยต่างๆ เปลี่ยนแปลงจากเดิม
จะเป็นผลลบ เป็นผลบวก ยากประเมิน
สัญญาณที่ออกมาแล้วก็คือประเทศผู้ซื้อหลักเริ่มมีสัญญาณชะลอคำสั่งซื้อสินค้า เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในประเทศเอง ทั้งจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐ รวมถึงมีปัจจัยมาจากความหวาดหวั่นในสงครามการค้า
ผลที่ตามมาก็คือแม้ยอดการส่งออกจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างที่เห็น แต่โมเมนตัมเริ่มชะลอตัวลง
อย่างในเดือน มิ.ย. ที่ตัวเลขเป็นบวก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ถ้านำมาเทียบกับเดือน พ.ค.ปีนี้ การส่งออกจะลดลง 2.14%
นาทีนี้คงตอบไม่ได้ชัด การส่งออกจะตามเป้า ทะลุเป้า หรือจะลดลงต่ำกว่าเป้า
เอาเป็นว่าทำกันให้เต็มที่ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
ถือเสียว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นอนิจจังก็แล้วกัน