ปฏิบัติการทรัมป์ขย่มจีน

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน เป็นประเด็นร้อนทั้งโลก

แต่ว่าไปแล้ว งานนี้เห็นทีจะเรียกสงครามการค้าคงไม่ตรงประเด็นนัก 

ที่ถูกน่าจะเป็นการที่สหรัฐสกัดจีนไม่ให้มาวัดรอยเท้ามากกว่า ถ้าปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้เรื่อยๆ เห็นทีจีนจะแซงหน้าสหรัฐ

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จึงใช้อำนาจเพื่อทำให้สหรัฐคงความยิ่งใหญ่เอาไว้ 

จีนประกาศนโยบายสำคัญคือการเข้าสู่ประเทศสังคมนิยมใหม่ที่ทันสมัย โดยแบ่งระยะเวลาเป็น 2 ช่วง

ช่วงแรกในอีก 3 ปีข้างหน้า คือปี 2563 จีนจะทำให้ประชาชนทั้งประเทศมีรายได้พ้นจากเส้นความยากจน หรือก้าวไปสู่สิ่งที่เรียกว่า สังคมนิยมเสี่ยวคัง

หลักเกณฑ์ของธนาคารโลก ความยากจนข้นแค้นวัดจากรายได้ที่น้อยกว่า 1.25 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 40 บาท โดยปัจจุบันจีนมีคนยากจนข้นแค้นประมาณ 69 ล้านคน

ถัดไปอีก 30 ปีข้างหน้า จีนจะพัฒนาให้มีคนชั้นกลาง 60% ของประชากรทั้งหมด เป็นประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัย จากที่เคยเป็นโรงงานโลก ผลิตเน้นปริมาณ ก็จะเป็นการเน้นคุณภาพ จากที่เคยใช้สิ่งแวดล้อม แรงงาน แลกมากับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ก็จะเลิก และมุ่งเน้นการใช้นวัตกรรม

แผนปฏิบัติของจีนออกมาเป็นขั้นตอน อาทิ โครงการ Made in China 2025 ที่กำลังเป็นข่าวครึกโครมในยามนี้

Made in China 2025 เป็นการพลิกโฉมการพัฒนาอุตสาหกรรมของจีน เน้น 10 สาขาแห่งอนาคต อาทิ หุ่นยนต์ อวกาศการบิน รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด ฯลฯ 

จีนตั้งเป้าใช้เทคโนโลยีผลักดันการพัฒนาอย่างเช่น บิ๊กดาต้า-Big Data และปัญญาประดิษฐ์-AI 

สหรัฐจึงกระหน่ำจีนราวกับซัมเมอร์เซลส์ โดยเฉพาะมองกันว่าเป็นการเน้นไปที่โครงการ Made in China 2025

อาทิ การเก็บภาษีชุดแรกมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ก็เป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Made in China 2025 เป็นหลัก

นอกจากนั้น ยังมีข่าวเป็นระยะด้วยว่าสหรัฐกำลังพิจารณาทบทวนกฎระเบียบใหม่ ที่จะห้ามไม่ให้บริษัทที่มีผู้ถือหุ้นสัญชาติจีนอย่างน้อย 25% มีสิทธิครอบงำหรือซื้อธุรกิจสหรัฐที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีที่สำคัญต่อภาคอุตสาหกรรม 

ทั้งหมดก็เกี่ยวพันกับ Made in China 2025

และคงจำกันได้เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐห้ามอินเทลไม่ให้ขายชิปตระกูลซีออน-Xeon ให้กับรัฐบาลจีน ที่ใช้สำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 

รัฐบาลสหรัฐสั่งให้บริษัทสหรัฐที่จะส่งออกสินค้าไปยังศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 3 แห่งในจีน และมหาวิทยาลัยด้านการทหารหนึ่งแห่งจะต้องขอใบอนุญาตล่วงหน้า และเมื่ออินเทลยื่นขออนุญาตไปก็ถูกปฏิเสธ

ไม่ต้องแปลให้มากความ Made in China 2025 จึงเป็นของแสลง

ยักษ์ใหญ่เลยต้องไล่ทุบยักษ์รอง สั่นสะเทือนไปทั่ว

บรรดาหญ้าแพรกก็คงต้องหาทางหลบหลีกกันให้ดี