posttoday

คาดเฟดคงดอกเบี้ย

02 พฤษภาคม 2561

ผ่านพ้นวันแรงงานวันแรก ปิดท้ายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นเล็กน้อยตามตลาดหุ้นภูมิภาครอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

โดย..นายกระทิงและหญิงฟลอร์

หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ 1 ทศวรรษที่ยั่งยืน ฉบับวันพุธที่ 2 พ.ค. 2561

ผ่านพ้นวันแรงงานวันแรก ปิดท้ายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นเล็กน้อยตามตลาดหุ้นภูมิภาครอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) SET ปิดที่ 1,780.11 จุด เพิ่มขึ้น 2.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,679.28 ล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อ 2,127 ล้านบาท พอร์ตบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อ 293 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อ 302 ล้านบาท

วันนี้ลุ้นผลประชุมเฟดที่ตลาดทุนทั่วโลกคาดการณ์จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ ไม่ส่งผลต่อตลาดหุ้น แต่ถ้าพลิกล็อกก็ไม่แน่ ต้องคอยลุ้นกัน สิ่งสำคัญคือเฟดจะส่งสัญญาณอะไรออกมาที่ต้องจับตาจนถึงวันศุกร์ ติดตามดูตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของทางฝั่งยูโรโซน รวมไปถึงวันที่ 4 พ.ค. ทางเจ้าหน้าที่ของเฟดหลายสาขาจะออกมาแถลง

บล.ทยอยแจ้งกำไรออกมามีทั้งดีและร้าย เอเซีย พลัส (ASP) กำไรสุทธิพุ่ง 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ค่าจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และจัดการกองทุน และกำไรจากการซื้อขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ 114 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% รวมถึงรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลเพิ่มขึ้นตามเงินปันผลรับจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์ ส่วนรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง ด้านเมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ยังฝ่ามรสุมกำไรไตรมาสแรกลดลง

ด้านกลุ่มธนาคารถูกลดกำไรลงต่อเนื่อง แม้กำไรไตรมาสแรกออกมาตามที่ตลาดคาด แต่โบรกเกอร์ยังห่วงไส้ในการแข่งขันเว้นค่าธรรมเนียมการโอนที่จะปะทุหนักไตรมาส 2 ลดกำไรแบงก์ใหญ่หลายแบงก์ลงมากันไว้ก่อน กลัวนักลงทุนเจ็บตัว รอลุ้นผลงานไตรมาส 2 ว่ากันว่าจะได้รู้กันว่าหมู่หรือจ่า

ราคาหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) วันจันทร์ที่ผ่านมาปิดที่ 131 บาท ลดลง 2 บาท หรือลดลง 1.50% สวนทางการปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทยเล็กน้อย วอน อาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB โปรดชี้แจง เป็นความเสี่ยงของวินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง (วินด์ฟาร์ม) ที่อาจจะลามถึงธนาคารได้ซ้ำเติมที่ล่าสุด SCB เพิ่งถูกบางโบรกเกอร์ลดประมาณการกำไรปีนี้ลง หวั่นกลยุทธ์ฟรีค่าธรรมเนียม

ล่าสุดทำเอาวงการสั่นสะเทือนไปทุกวงการ เมื่อตระกูลใหญ่ของเมืองไทย ณรงค์เดช ออกแถลงการณ์ตัดเยื่อใยไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำใดๆ ในทางธุรกิจกับ ณพ ณรงค์เดช บุตรชายคนกลางรองประธานคณะกรรมการ วินด์ฟาร์มกรณีนำสินทรัพย์ ของครอบครัวไปเป็นหลักประกันซื้อหุ้นวินด์ฟาร์ม จาก นพพร ศุภพิพัฒน์ แล้วเกิดกรณีฟ้องร้องลามไปถึงครอบครัวว่า ณพไม่ได้จ่ายค่าหุ้น ตระกูลณรงค์เดช ระบุว่าไม่มีส่วนรู้เห็นการกระทำของณพ นอกจากการนำทรัพย์สินไปลงทุนเท่านั้นเอง ส่วนน้องชายคนเล็ก กรณ์ ณรงค์เดช ได้ถอนตัวจากการเป็นกรรมการในวินด์ฟาร์มแล้ว

เรื่องที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับนักลงทุนก็ตรงที่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ปล่อยกู้วินด์ฟาร์มทำโครงการพลังงานลม 5 โครงการ กำลังการผลิต 450 เมกะวัตต์ มูลค่าสูงถึง 3.7 หมื่นล้านบาท สูงสุดในระบบธนาคารไทย เดิมวินด์ฟาร์มมีโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 270 เมกะวัตต์อยู่แล้ว งานนี้ไม่ได้บอกว่าโครงการไม่ดี แต่เรื่องที่ฟ้องร้องกันไปมานี่สิ SCB คิดอย่างไรนะ เรื่องจะจบในทิศทางใด ล่าสุด ณพให้สัมภาษณ์ครั้งแรกว่า ถ้าเรื่องยุ่งกันถึงขนาดนี้ไม่จำเป็นที่วินด์ฟาร์มต้องเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นก็ได้ น่าเสียดายโครงการดีระดับสากลต้องมาเสียเพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ชิงหุ้นกัน