ขวัญใจคนตัวเล็ก แจ็ค หม่า
เสร็จสิ้นไปแล้วสำหรับการเดินทางมาเยือนไทยของ แจ็ค หม่า เจ้าพ่ออาลีบาบา โดยมีการลงนามร่วมกันหลายฉบับ
โดย..ณ กาฬ เลาหะวิไลย
เสร็จสิ้นไปแล้วสำหรับการเดินทางมาเยือนไทยของ แจ็ค หม่า เจ้าพ่ออาลีบาบา โดยมีการลงนามร่วมกันหลายฉบับ
การเข้ามาของอาลีบาบา ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดแรงส่งต่อโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) แต่อาลีบาบาจะช่วยยกระดับการพัฒนา ยกระดับการแข่งขันในหลากมิติ
เพราะการทำธุรกิจของอาลีบาบา คือการสร้างธุรกิจและสร้างคน
หลักคิดการทำธุรกิจของ แจ็ค หม่า มองไปที่คนตัวเล็ก เกษตรกรในชนบทที่ยากจน ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก โดยจะต้องสร้างโอกาสให้คนเหล่านี้มีมากยิ่งขึ้น
เริ่มจากอาลีบาบาเปิดตัวระบบค้าขายออนไลน์เป็นเว็บไซต์ เถาเป่า -Taobao.com ในปี 2546 และใช้เวลาเพียง 3 ปี ก็คว่ำยักษ์ระดับโลกอย่าง ebay.com ที่กำลังเข้าไปบุกตลาดในจีนได้สำเร็จ
สาเหตุเพราะเถาเป่าเน้นให้บริการฟรี เปิดให้ธุรกิจมีโอกาสขายสินค้าราคาถูก โดยหันไปทำกำไรจากการโฆษณาของบริษัทต่างๆ ที่ต้องโฆษณาสินค้าไปยังชาวจีน
เถาเป่ายังไปส่งเสริมให้เกิดการรวมตัวของชาวบ้านในชนบท จนเกิดหมู่บ้านเถาเป่า - Taobao Village เพื่อใช้อี-คอมเมิร์ซ ขายสินค้าหมู่บ้านแห่งแรกเกิดขึ้นในปี 2552 และขยายตัวเป็นนับหมื่นหมู่บ้านกระจายไปทั่ว
อาลีบาบาจัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับสินค้าที่ชาวบ้านรวมตัวกันมาขาย สร้างระบบการชำระเงินที่ง่าย สะดวก ต้นทุนต่ำ และเปิดสอนอบรมให้กับชาวบ้านรู้วิธีค้าขายบนอินเทอร์เน็ต ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Learning โดยใช้ชื่อเรียกว่า มหาวิทยาลัยเถาเป่า - Taobao University
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเถาเป่าขยายเครือข่ายจัดการอบรมผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีไปทั่วโลก
ทั้งหมดเกิดจากการที่ แจ็ค หม่า มองว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการสร้างการเรียนรู้ เพราะ แจ็ค หม่า เคยเป็นครูมาก่อนนั่นเอง
นอกจากการอบรม การสอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์แล้ว แจ็ค หม่า ยังทำสิ่งที่ท้าทายด้านการพัฒนาคนอีก โดยได้เปิด สถาบันหูพ่าน - Hupan College ที่เมืองหังโจว เป็นหลักสูตรการเรียนระยะเวลา 3 ปี
การตั้งสถาบันการศึกษาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2552 ที่ แจ็ค หม่า ไปเที่ยวภูฏานกับเพื่อนนักธุรกิจอีก 8 คน และมีความคิดจะสร้างความยั่งยืนให้กับผู้ประกอบการธุรกิจของจีนด้วยการเรียนการสอนแบบใหม่
แต่ปัญหาคือหลักสูตรบริหารธุรกิจในโลกตะวันตกไม่เหมาะสำหรับธุรกิจที่กำลังเริ่มต้น สอนบางสิ่งที่ไม่จำเป็น จึงมีความคิดตั้งสถาบันการศึกษาขึ้นมาสำหรับเพาะพันธุ์มังกรรุ่นต่อไป
สถาบันหูพ่านเริ่มเปิดสอนรุ่นแรกเมื่อปี 2558 มีนักศึกษาแค่ 44 คนที่ผ่านการคัดเลือก จากที่สมัครนับพัน คุณสมบัติเบื้องต้นผู้เรียนต้องมีประสบการณ์ในการก่อตั้งธุรกิจมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี เป็นกิจการที่มีพนักงานไม่ต่ำกว่า 30 คน เสียค่าเรียน 1.4 ล้านบาทตลอดหลักสูตร
นี่คือวิถีอาลีบาบา วิถีแจ็ค หม่า ที่คิดต่างจากบริษัทยักษ์อื่นๆ
และที่น่ายินดีก็คือ การทำธุรกิจ กระบวนการเรียนรู้ การสร้างคนภายใต้แนวคิดแบบอาลีบาบา
รูปแบบเหล่านี้จะมาเกิดขึ้นที่เมืองไทยในเร็ววัน