พอร์ต 3 สไตล์ แบบไหนได้ ‘ใจ’ คุณ
เชื่อว่าทุกคนที่ตัดสินใจเข้าลงทุนในตลาดหุ้น ซื้อหุ้น เพราะต้องการ “กำไร” และเชื่อว่าคนที่ผ่านมาเล่นหุ้น ล้วนเคย “ขาดทุน” จากการเลือกหุ้นผิด
โดย...วารุณี อินวันนา
เชื่อว่าทุกคนที่ตัดสินใจเข้าลงทุนในตลาดหุ้น ซื้อหุ้น เพราะต้องการ “กำไร” และเชื่อว่าคนที่ผ่านมาเล่นหุ้น ล้วนเคย “ขาดทุน” จากการเลือกหุ้นผิด
สภาพตอนเดินเข้าตลาดหุ้นร่าเริงเหมือนไก่จะบิน แต่ตอนขาออกหมดเรี่ยวหมดแรงไปตามๆ กัน หรือบางคนยังไม่ออกจากตลาด แต่ก็ต้องเผชิญกับความทรมานใจ ตรอมใจ จนต้องทำใจ
ยิ่งช่วงไตรมาส 2 ที่ตลาดหุ้นซึมหนักจากสงครามการค้า สงครามซีเรีย ความเสี่ยงก็ยิ่งสูง ต้องติดตามข้อมูลกันใกล้ชิด
แต่ถ้าไม่มีเวลาวันนี้ มีรูปแบบการจัดพอร์ต 3 สไตล์ ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประกอบด้วย ไร้ใจ ใส่ใจ และอุ่นใจ ที่แค่ฟังชื่อก็รู้สึก “สนใจ” ขึ้นมาทันที นึกถึงหนังบู๊กำลังภายในของจีนไปโน่นเลย
พอร์ต 3 สไตล์นี้ ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกเบื้องต้นให้กับนักลงทุนที่ไม่มีเวลามานั่งศึกษาหุ้นแต่ละตัวอย่างละเอียด โดยมีนักวิเคราะห์ทำการคัดสรรหุ้นจำนวนหนึ่งให้เหมาะกับพอร์ตแต่ละสไตล์ไว้ให้แล้ว
นอกจากนี้ จะมีการแจ้งถึงการเปลี่ยนหุ้นในแต่ละพอร์ต ตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นฐานหุ้น สภาพการลงทุนในตลาดหุ้น ปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบหุ้นอยู่ตลอดเวลา
แต่จะลงทุนตามคำแนะนำหรือไม่ นักลงทุนมีอิสระในการตัดสินใจเอง
สิ่งที่ “ถูกใจ” ในพอร์ต 3 สไตล์นี้ เพราะมีการเปิดให้บริการมาแล้ว 9 เดือน สร้างผลตอบแทนได้อย่างน่า “พอใจ” ภายใต้ความเสี่ยงของการลงทุนที่ต้องเผชิญอยู่ทุกขณะ
เอกชัย ธาราพรทิพย์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) สรุปผลงาน 9 เดือน ในกรณีที่ทำตามคำแนะนำของนักวิเคราะห์ให้ฟังว่า
พอร์ต “ไร้ใจ” สร้างผลตอบแทนประมาณ 24% จากที่เคยขึ้นไปสูงสุด 27%
พอร์ต “ใส่ใจ” สร้างผลตอบแทน 10% จากที่เคยขึ้นไปสูงสุด 18-19%
พอร์ต “อุ่นใจ” สร้างผลตอบแทนประมาณ 12.5%
มาดูกันว่าการจัดพอร์ต 3 สไตล์ 3 ใจ เป็นอย่างไร
พอร์ต “ไร้ใจ” ความเสี่ยงในการลงทุนจัดอยู่ระดับ 10 จะมีการเข้าซื้อและขายออกเร็ว โดยจะอิงทิศทางหรือโมเมนตัมของตลาด ประกอบข้อมูลทางเทคนิค ข่าว มูลค่าการซื้อขาย แล้วนักวิเคราะห์ก็จะใช้ประสบการณ์ในการให้คำแนะนำเคาะทันทีที่เห็นแสงแรก
ส่องออกมา
หุ้นในพอร์ตนี้จะมีไม่เกิน 10 บริษัท และพื้นฐานดีเป็นหลัก มีทั้งหุ้นเล็ก หุ้นใหญ่ ทุกกลุ่ม ขึ้นอยู่กับความโดดเด่น และต้องมีสภาพคล่องดี โดย 6 เดือนย้อนหลังต้องมีวอลุ่มการซื้อ-ขายเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท/วัน
สำหรับเหตุผลที่แนะนำให้ลงทุนไม่เกิน 10 บริษัท เพราะโดยปกติคนหนึ่งคนจะสามารถติดตามหุ้นได้อย่างใกล้ชิดและตัดสินใจได้ทันสถานการณ์ที่สุดประมาณนี้ โอกาสเลือกหุ้นได้ถูกมีเพิ่มขึ้น และความเสี่ยงลดลงเพราะมีการกระจาย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ลงทุนในปัจจุบันได้ลดจำนวนหุ้นในพอร์ต “ไร้ใจ” ลงเหลือประมาณ 3-4 บริษัทเท่านั้น
ดูลักษณะการบริหารพอร์ต “ไร้ใจ” แล้ว น่าจะเหมาะกับนักลงทุนที่ชอบความหวือหวา หรือขาซิ่ง รับสภาพหัวใจสูบฉีดได้ดี แต่ก็กรีดกำไรได้แบบถึงใจเช่นกัน
พอร์ต “ใส่ใจ” ความเสี่ยงในการลงทุนจัดอยู่ระดับ 9 ลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี สภาพคล่องสูงเช่นเดียวกันเป้าหมายการลงทุนเป็นระยะปานกลาง การบริหารพอร์ตจะใช้เหตุผลมากขึ้น จะต้องหาเหตุผลที่ทำให้หุ้นนั้นน่าซื้อ มีการคาดการณ์ผลประกอบการและสภาพการลงทุน หากเห็นว่าข้อมูลหรือเหตุผลที่สนับสนุนเกิดการเปลี่ยน อาจก่อให้เกิดความเสี่ยง
เช่น หุ้นขึ้นมา 5% จะแนะนำให้ขาย หรือหุ้นลงไป 7% จะต้องขายเพื่อตัดขาดทุน ไม่มีการรีรอ จึงไม่ต้องมานอนน้ำตานองหน้า เพราะให้ความ “ใส่ใจ”
พอร์ต “อุ่นใจ” ความเสี่ยงในการลงทุนอยู่ระดับ 8 เป็นการลงทุนระยะยาว ที่หวังผลตอบแทนมั่นคง สม่ำเสมอ หุ้นในพอร์ตนี้จึงเป็นหุ้นที่มีการปันผลอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวไม่หวือหวา บริษัททำธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนไม่หวือหวา มีการติดตามพื้นฐานของบริษัทอยู่ตลอดเวลา หากทิศทางของบริษัทพลิก ก็จะแนะนำให้มีการขายออก หรือถ้าหุ้นขึ้นมามากก็แนะนำให้ทำกำไร ทำให้รู้สึกมีความ “สบายใจ”
น่าเสียดายที่ไม่สามารถบอกชื่อหุ้นในแต่ละพอร์ตได้ เพราะสงวนสิทธิไว้ให้เฉพาะลูกค้าของบริษัทเท่านั้น
ขอย้ำกันให้จำ “ขึ้นใจ” ว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ แต่หากรู้วิธีบริหารความเสี่ยงให้ลดน้อยลง ทำให้โอกาสในการทำ “กำไร” เพิ่มขึ้น ก็นำความ “สุขใจ” มาให้