อย่างไรก็เปลี่ยนแปลง

โดย..ณ กาฬ เลาหะวิไลย

ประเด็นร้อนๆ ทางการเมืองในยามนี้เห็นทีต้องมองไปถึงการเลื่อนหรือไม่เลื่อนเลือกตั้ง

ต้นตอสำคัญมาจากการที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยว่า พ.ร.ป.สส.และ พ.ร.ป.สว. ที่เกี่ยวพันกับการเลือกตั้ง สส.และ สว. มีบทบัญญัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

ถ้าไม่ขัด ทุกอย่างก็เป็นไปตามโรดแมปเดิม แต่หากขัดโดยไม่ใช่สาระสำคัญ ก็คงขยับไปบ้างเล็กน้อย หรือไม่ขยับเลย

แต่ในทางกลับกันหากมีบทบัญญัติที่ขัดกับรัฐธรรมนูญอย่างรุนแรง ก็มีหวังต้องเลื่อนเลือกตั้งชนิดที่สวมวิญญาณกระเป๋ารถสองแถวประมาณว่ายาวววว เลยลูกเพ่

และก็เป็นเรื่องแปลกที่ประเด็นการเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้งแม้จะเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ก็กลายเป็นมองได้ต่างมุม

เริ่มจากมุมแรก การเลือกตั้งเป็นความเสี่ยง

สาเหตุเนื่องจากจะเกิดจากความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยเฉพาะหลังเลือกตั้ง เกิดมีรัฐบาลต่างพรรค ต่างพวก ต่างขั้วอำนาจเดิม บรรดาสารพันโครงการที่ตั้งไข่เอาไว้ จะอยู่หรือจะไป จะต้องล้มเลิก หรือรื้อกันยกใหญ่

ทั้งหมดยังไม่นับคำสั่ง กฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะการใช้มาตรา 44 ที่อาจเกิดรายการรื้อฟื้น ตามล้างตามเช็ด เอาคืนชนิดทบต้นทบดอก

และหลังการเลือกตั้ง บรรยากาศในบ้านเมืองจะบังเกิดความสามัคคี หรือกลายเป็นกีฬาสี ก่อม็อบมาตีรันฟันแทงไม่หยุด

ที่สำคัญคือการจัดวางอำนาจในบ้านเมือง โดยเฉพาะบรรดาพรรคการเมือง รัฐบาลหน้าใหม่ กับขุมกำลังที่มีอยู่ในขณะนี้คือทหารกับกองทัพ จะถี่ห่าง วางระดับกันอย่างไร

การเลือกตั้งจึงกลายเป็นความเสี่ยงไปโดยปริยาย

แต่อีกแง่มุมก็คือการไม่เลือกตั้งเป็นความเสี่ยง

สาเหตุเพราะการไม่เลือกตั้งทำให้ประเทศชาติไม่เข้าสู่ประชาธิปไตย การที่รัฐบาล คสช.จะบริหารประเทศต่อไป อาจเกิดความรุนแรงได้ในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อระบบการคาน ดุล อำนาจเริ่มเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ 

อนาคตประเทศจึงสมควรอยู่ในมือประชาชน ผ่านระบบพรรคการเมือง ผ่านการเลือกตั้งที่กำหนดขึ้นมาแล้วอย่างช้าสุดในเดือน ก.พ.ปีหน้า

หลากหลายประเทศต่างก็จับตาการเลือกตั้งครั้งใหม่ รัฐบาลใหม่ที่จะมาพร้อมรัฐธรรมนูญที่ยกร่างและประกาศใช้ออกมาแล้ว

เม็ดเงินลงทุน เม็ดเงินในตลาดหุ้น จะคึกคัก จากระบอบประชาธิปไตยที่จะกลับมา

นั่นคือเสียงสนับสนุนที่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง 

ทั้งหมดคงต้องว่า ต้องถกกันไป โดยในความเป็นจริงแล้วอย่างไรเสียก็ต้องมีการเลือกตั้งแน่นอน

สภาพที่เป็นอยู่จะทำให้อยู่ยง ยั่งยืน ตลอดกาลคงเป็นไปไม่ได้ ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง

เป็นกฎแห่งอนิจจลักษณะที่ต้องแปรเปลี่ยน คงแท้แน่นอน

จะฝืนทนอย่างไร รับรองได้ว่า เอาไม่อยู่

เพียงแต่ว่าจะเร็ว จะช้า ต้นปี กลางปี หรือปลายปีหน้า

และผลที่ออกมาจะเป็นรูปแบบใดเท่านั้นเอง