สารพันดอกไม้ใบสีเขียว

โดย..ณ กาฬ เลาหะวิไลย

บรรยากาศการเมืองเหมือนกลับมามีสีสันอีกครั้ง

เพียงแค่เปิดวันแรกให้จดทะเบียนตั้งพรรคการเมือง ก็สุดคึกคัก

บรรดานักการเมืองหน้าใหม่ หน้าเก่า ต่างพาเหรดมาจดชื่อพรรค ถึง 44 พรรค เรียกว่า จองก่อนได้ก่อน ไม่เช่นนั้นมาจดภายหลัง มีคนตัดหน้าเอาไว้ คงเสียที

ทั้งหมดเกิดจากสัญญาณการเลือกตั้งที่ทำท่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.พ.ปีหน้า

เรียกได้ว่าเป็นการยืนยันกับสิ่งที่เคยประเมินกันไว้ว่า ปีนี้อย่างไรเสียก็ไม่มีเลือกตั้ง

ส่วน ก.พ.ปีหน้า การเลือกตั้งคงค่อนข้างแน่ โดยอาจเลื่อนเข้า เลื่อนออกไปได้ แต่ก็คงไม่ไกลจากที่กำหนด

เรียกได้ว่า เดินกันมาใกล้สุดทาง ใกล้ถึงวันตัดสินทางการเมือง ครั้งใหญ่

ในบรรดาพรรคการเมืองที่แห่ยื่นจดทะเบียน หรือจะมาจดใน ภายหลัง พอแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มแรก ก็คือไม่เอาทหาร

ไม่ต้องแปลความ พูดง่ายๆ ก็คือตั้งขึ้นมาเพื่อไม่ให้ทหารกลับมาเป็นนายกฯ ไม่ว่าจะมาโดยตรงหรือโดยอ้อม

กลุ่มที่ 2 ก็คือสนับสนุนทหาร

เรียกได้ว่า ต้องการจำนวน สส.เพื่อสนับสนุนทหารกลับมาเข้ามาดูแลบ้านเมืองต่อไป

กลุ่มที่ 3 รอดูท่าที ฝ่ายไหนชนะ ก็เฮไปอยู่กับฝ่ายนั้น

สรุปความแล้ว พรรคการเมือง 3 กลุ่มที่ว่า จึงมีแค่มีแค่ 2 ขั้ว

คือขั้วเอาทหาร กับไม่เอาทหาร

ฝ่ายที่ไม่เอาทหาร เปิดตัวแน่ชัดก็คือพรรคเพื่อไทยดั้งเดิม ที่กำลังยังแรง แรงดีไม่มีตก

ส่วนฝ่ายที่เอาทหารจะเป็นพรรคการเมืองขนาดกลาง ขนาดเล็ก ตั้งขึ้นมากระจายตามจังหวัด หรือภูมิภาคต่างๆ

พรรคการเมืองเหล่านี้มุ่งสู่วิธีแยกกันเดิน รวมกันดี ไปสะสมคะแนนเสียงในมือในแต่ละพื้นที่ จากนั้นก็เอามารวมกัน

เหมือนดอกไม้หลากสีสัน บานประชันรวมกัน โดยไม่ว่าจะมีดอกสีไหน แต่ใบก็สีเขียวเหมือนกัน

ถามว่าสถานการณ์ตอนนี้ใครได้เปรียบ

ถ้ามองก็ต้องบอกว่า บรรดาดอกไม้ใบสีเขียว ยังได้เปรียบอยู่หลายช่วงจมูก

สาเหตุสำคัญก็คือกลไกอำนาจ กลไกบริหารบ้านเมืองยังอยู่ในทิศทางของแปลงดอกไม้หลากพันธุ์

สารพันโครงการ สารพัดงบประมาณยังต่างเตรียมพร้อมจะออกมา ด้วยกระสุนดินดำเต็มอัตราศึก

นอกจากนั้นกฎ กติกาที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญจนไปถึงกฎหมายลูก ต่างให้คุณกับต้นไม้ใบสีเขียว

แต่นั่นแหละ การเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน สิ่งที่ว่าแน่ เห็นมาแล้ว กลายเป็นของไม่แน่นอน

จึงต้องดูกันทีละก้าว นับกันไปเรื่อยๆ จนถึงก้าวสุดท้ายนั่นแล

ดูไปทำใจร่มๆ ไป เรื่องนี้ยังมีเวลาอีกยาว