ไม่เผือกได้งัย?

โดย...สันทัด กรณี

ขอกลับมามองเรื่องรอบตัว เรื่องที่กำลังเป็นข่าวดังเกี่ยวกับบิ๊กสื่อ ถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศพนักงานสาวในองค์กร

เรื่องนี้เคยเขียนไปครั้งหนึ่ง เขียนด้วยความไม่เห็นด้วยที่บิ๊กสื่อรายนั้น งัดมาตรการทางกฎหมายให้ทนายความยื่นโนติสไปที่สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ให้หยุดตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีเกิดข้อครหาคุกคามทางเพศ หากฝ่าฝืนเจอฟ้องคดีอาญา

โอวว แม่สาวน้อย วิธีการนี้เหมือนที่พวกเราชาวสื่อมักโดนนักการเมืองงัดมาจัดการเวลาที่เข้าไปเจาะไชในคดีทุจริตซะเหลือเกิน เป็นวิธีการที่เราเรียกว่า มาตรการปิดปาก ฮ่าๆๆ

ครั้งนั้นท่านผู้อ่านย่อมสงสัยใครหว่าบิ๊กสื่อที่ถูกกล่าวหา มาวันนี้ไม่ต้องเดาละ เพราะทางสถาบันอิศรา ได้ออกแถลงการณ์ ประกาศปกป้อง คุณประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันอิศรา โดยระบุว่าถูกใส่ร้ายจากกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ และเดิมพันด้วยชื่อเสียงของสถาบันที่จะทำทุกวิถีทางให้ คุณประสงค์ พ้นจากภาวะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสงวนสิทธิในการที่จะดำเนินคดีทั้งในทางแพ่งและทางอาญากับบุคคลทุกคนที่กระทำการใดๆ ทำให้สถาบันอิศรา สำนักข่าวอิศรา คุณประสงค์ และพนักงาน เสียหายชื่อเสียง

ซึ่งต่อมาคุณประสงค์ก็ไปแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ดำเนินคดีกับนายแอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชล ผู้ที่ออกมาโพสต์ว่า คุณประสงค์ คือที่ผู้กล่าวหาว่าคุกคามทางเพศพนักงาน

ครับ...พูดง่ายๆ คือ ผู้บริหารสถาบันอิศรา และคุณประสงค์ ต้องการให้ทุกคนเงียบ สอบเสิบอะไรไม่ต้องการให้เกิดขึ้นทั้งนั้น ซึ่งดูแล้วก็น่าแปลกใจ

พูดง่ายๆ คือ "อย่ามาเผือกเรื่องของกรู" ว่างั้นเหอะ

สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ที่ประกาศตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตอนนี้ออกอาการกล้าๆ กลัวๆ ยังไม่ทราบว่างานนี้จะโยนไพ่ทิ้งหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ

เรื่องนี้แม้มีคนอยากให้เงียบ แต่ดูแล้วเงียบยากเพราะไกลเกินกว่าจะเอาใบบัวไปปิด ทั้งองค์กรสตรีในประเทศหลายองค์กรก็ได้ออกมาขยับ ขณะนี้ต่างประเทศก็มาแล้ว

คุณมณฑิรา นาควิเชียร เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการงานสื่อสารองค์กรสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และยูเอ็นวีแมน ยื่นมือประกาศให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายอย่างเต็มที่แล้ว พร้อมตบหน้าผู้เกี่ยวข้องฉาดใหญ่

เรียกร้องให้ คุณประสงค์ ควรต้องยุติบทบาทในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถาบันอิศรา ที่ตนเองอาจมีอำนาจหรือมีอิทธิพลต่อการตรวจสอบ เพื่อให้กระบวนการเดินหน้าอย่างเถรตรง ส่วนองค์กรต้นสังกัดก็ไม่อาจเพิกเฉย ต้องสนับสนุนให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้ารับการตรวจสอบ เพราะความเป็นสถาบันอิศรานั้น คือการหยัดยืนต่อสู้บนพื้นฐานของสิทธิมนุษยชนมาตลอด... บุคลากรที่ร่วมงานในสถาบันอิศราควรให้ความร่วมมือค้นหาความจริงอย่างเต็มที่ ป้องกันไม่ให้เกิดความบอบช้ำและเสียหายแก่องค์กรมากไปกว่านี้...เจ้าหน้าที่ยูเอ็น เขาว่ามา

ครับ...เจ็บจี๊ด...คุณประสงค์ คงไม่ได้โง่จนคิดเองไม่ได้ แต่ถ้าจะโง่ๆ คงเพราะไม่ได้คิดเองรึเปล่า? ...พรุ่งนี้คุยต่อดีป่ะครับ?