posttoday

รัฐมนตรีมันก็แค่เสมียน

29 สิงหาคม 2560

ถือว่าเป็นการแสดงให้เห็นภาพการบริหารราชการแผ่นดินที่ชัดเจน และทำให้ต้องมานั่งคิดให้ดี เราจะเดินกันไปทางไหน

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

ถือว่าเป็นการแสดงให้เห็นภาพการบริหารราชการแผ่นดินที่ชัดเจน และทำให้ต้องมานั่งคิดให้ดี เราจะเดินกันไปทางไหน

เมื่อสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กกรณีบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 42 ปี

สุรนันทน์เขียนว่า เป็นเพื่อนบุญทรงตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคไทยรักไทยใหม่ๆ และก็ติดต่อกันเรื่อยมา

ประเด็นสำคัญก็มาถึงการที่สุรนันทน์ร่วมงานกับบุญทรงอีกครั้ง

สุรนันทน์เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี บุญทรงเป็น รมช.คลังก่อนขยับขึ้นเป็น รมว.พาณิชย์

เมื่อสุรนันทน์แวะไปหาบุญทรง ที่กระทรวงพาณิชย์ก็เห็นแฟ้มเต็มโต๊ะ

และเปิดอ่าน ก็ทำให้อดห่วงไม่ได้

สาเหตุเพราะแต่ละเรื่องน่ากลัว

สุรนันทน์ยังขยายความอีกว่า ทั้งคู่มีโอกาสเดินทางไปราชการต่างประเทศ ได้คุยกัน ก็พบแววตาของบุญทรงมีความกังวล

สิ่งที่สุรนันทน์รู้สึกเสมอก็คือบุญทรง ไม่สบายใจ

นี่แหละ ช่างน่าสงสัย ทำไมการบริหารราชการในกระทรวงพาณิชย์ถึงมีเรื่องน่ากลัว ทำไมแววตาบุญทรงถึงกังวล ไม่สบายใจ

ลึกลับ ซ่อนเงื่อน ตีความได้สารพัด

ถัดมาน่าจะเป็นประโยคทองก็คือ ในช่วงวิกฤต สุรนันทน์มีงานหลายด้านแต่ก็ไม่วายห่วงเพื่อน เมื่อส่งเรื่องจากทำเนียบฯ ก็คอยเตือนว่าเรื่องไปแล้วรีบจัดการ เราเป็นเพียง เสมียน ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางทั้งหมด

นั่นแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้ไหมว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีก็ดี หรือเลขานายกฯ เป็นเพียง “เสมียน” ในระบบที่เป็นอยู่ ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางเรื่องราวต่างๆ

หากเป็นจริงก็ อะเมซิ่งไทยแลนด์ ขนานแท้

และถ้าตีความเพิ่มขึ้นอีก เมื่อมีเสมียน ก็ต้องมีตำแหน่งที่เหนือกว่า คอยดูแลอีกทอด

ภาษาที่ชาวบ้านน่าจะเข้าใจ คืออาจมีหลงจู๊ หรือ หลงเจ๊ มาควบคุม

ที่ผ่านมานโยบายข้าว ทั้งการจำนำ การขายข้าว ก็เต็มไปด้วยข่าวลือทำนองมีผู้เก็บเกี่ยวทุกอย่างเบ็ดเสร็จ กวาดแทบทุกเมล็ด ก็เห็นจะเป็นหลงจู๊-หลงเจ๊ นี่เอง

และตามทฤษฎีเมื่อมีหลงจู๊-หลงเจ๊ ก็ควรมีเถ้าแก่เป็นด่านสุดท้าย

แต่ยามนี้ดูเหมือน หลงจู๊-หลงเจ๊ เถ้าแก่ ลอยนวลไม่ปรากฏโฉม ปล่อยให้เสมียน และลูกจ้างนับสิบ ติดคุก

สุรนันทน์ เขียนอีกว่าหลังปฏิวัติเคยนั่งจิบไวน์กับบุญทรง และขอให้เล่าเรื่องทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร แต่ได้รับคำตอบว่า พูดไม่ได้

ทั้งหมดทำให้ สุรนันทน์ เขียนสรุปว่า ในทางการเมือง บางเรื่องต้องตายไปกับเรา พูดไม่ได้ และเห็นใจบุญทรง ที่ต้องเข้าไปติดกับเงื่อนไขนั้น

ลองอ่านดูให้ดี สิ่งที่สุรนันทน์เขียน อาจทำให้รู้สึกได้ว่า การบริหารประเทศเป็นรูปแบบใด ในยุคที่รัฐมนตรีเป็นแค่เสมียน

นั่งมโนไป ก็ราวกับเป็นระบบหลงจู๊-หลงเจ๊-เถ้าแก่ ที่ครบวงจร