รับมือเงินบาทอ่อนค่า

โดย...ประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย

ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา US Dollar Index เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาที่ 99.82 ขณะที่สกุลยูโรและปอนด์พักตัวอ่อนค่าลงมาเล็กน้อย มองค่าเงินเหรียญสหรัฐอาจมาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้งจากประเด็นความคาดหวังการดำเนินนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ หลัง สตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลใกล้จะเปิดเผยมาตรการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่

ประเด็นแผนลดภาษีที่กลับมาอีกรอบ แม้ว่าตลาดจะยังคงมีความระแวงต่อความล่าช้าและความเสี่ยงที่จะถูกคว่ำในสภาคองเกรส แต่ก็ถือเป็นประเด็นบวกที่เข้ามาทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐคึกคัก หลังจากที่ต้องซึมซบเซาเพราะถูกปัจจัยลบ Geopolitical Risk ของสหรัฐกับซีเรียและเกาหลีเหนือปกคลุมมาตลอดทั้งสัปดาห์

ความกังวลเกี่ยวกับ Geopolitical Risk จะบรรเทาลงและสินทรัพย์ปลอดภัยต่างๆ เริ่มถูกขายออกบ้างแล้ว (Unwind) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐระยะ 10 ปีดีดขึ้นจากระดับต่ำที่สุดในรอบ 5 เดือนที่ 2.17% มาอยู่ที่ 2.24% เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นระยะ 10 ปีฟื้นจากมาจากระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ 0.01% สู่ 0.02% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยระยะ 10 ปี ดีดจาก 2.6% สู่ 2.65%

หากตลาดมองสถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์ที่เกิดขึ้นลดลงจริง บรรดาสินทรัพย์ที่ถูกมองว่าเป็น สินทรัพย์ปลอดภัย (รวมถึงเงินบาท) น่าจะถูกขายออกอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้บาทเกิดการกลับทิศและพลิกไปอ่อนค่าอีกครั้งได้ นอกจากนั้นบาทยังต้องถูกปัจจัยลบจากการซื้อคืนเงินเหรียญสหรัฐที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากตลาดจะกลับมาเก็งผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 2-3 พ.ค. 2560 ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. 2560 และการลดขนาดงบดุล หลังตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลงมาอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 17 ปี ถือเป็นความเสี่ยงโดยตรงต่อเงินบาทที่อยู่ในบริเวณแข็งค่าที่สุดในรอบ 21 เดือน อาจต้องถูกขายทำกำไรและจะกลายเป็นปัจจัยที่อาจทำให้เงินไหลออกได้

ทั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่พบสัญญาณการไหลออกของเงินต่างชาติที่ชัดเจน นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดทุนยังไม่มากอย่างมีนัยสำคัญ (ขาย 4 วันติดต่อกัน 3,210 ล้านบาท) เช่นเดียวกับตราสารหนี้เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ต่างชาติเพิ่งขายสุทธิเพียง 1,610 ล้านบาท หลังจากที่ซื้อมา 2 วันก่อนหน้า 8,360 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามเงินเหรียญสหรัฐในช่วงนี้หากจะแข็งค่าน่าจะเป็นรูปแบบค่อยๆ แข็ง โดยยังไม่น่าจะแข็งค่ารุนแรงรวดเร็วมากนัก ด้วยเพราะสกุลยูโรและปอนด์ยังมีแรงซื้อเก็งกำไรจากความคาดหวังการเลือกตั้งทั้งในฝรั่งเศสและอังกฤษ

การประกาศเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 มิ.ย. 2560 นี้ ของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ เป็นการสร้างความประหลาดใจต่อตลาดพอสมควร เพราะผิดไปจากที่ตลาดเคยได้รับการยืนยันไว้ก่อนหน้าว่าจะไม่จัดการเลือกตั้งก่อนปี 2563 ซึ่งการประกาศดังกล่าวเป็นการวัดใจว่าประชาชนจะสนับสนุนการเดินหน้านำสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิต) หรือไม่ เพราะปัจจุบันการดำเนินการเบร็กซิตยังค่อนข้างติดขัด เนื่องจากคะแนนเสียงข้างมากของพรรคอนุรักษนิยมค่อนข้างปริ่มน้ำคือมีเสียงเกินครึ่งไปเพียงไม่ถึง 20 เสียง และในความเป็นจริง ภายในพรรคเองก็มีปัญหาเสถียรภาพด้วย มีเสียงจาก สส.ของพรรคบางส่วนที่ไม่อยากยกมือให้กับแผนและขั้นตอนการออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ถึงกับขู่ว่าจะไม่ยกมือให้ ประกอบกับฝ่ายค้าน คือพรรคแรงงานก็ออกมาต้านเลยว่าจะขวางการอนุมัติแผนที่จะออกจากอียู รวมทั้งที่ผ่านมาสภาขุนนางก็ออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวไม่ต้องการสนับสนุนแผนการต่อรองกับอียู เพราะฉะนั้นหากพรรคอนุรักษนิยมสามารถชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงท่วมท้น ก็จะกลายเป็นเพิ่มแรงให้กับเมย์ในการเดินหน้ากระบวนการเบร็กซิตและต่อรองกับอียู

ตั้งแต่ที่นายกฯ อังกฤษประกาศจัดการเลือกตั้งสกุลเงินปอนด์แข็งค่าอย่างต่อเนื่องกว่า 2.3% เช่นเดียวกับสกุลยูโรที่แข็งค่ากว่า 0.90% ซึ่งทั้งสองสกุลมีน้ำหนักในการคำนวณเหรียญสหรัฐสูงถึง 65% การแข็งค่าดังกล่าวจะเป็นตัวทำให้เหรียญสหรัฐ ไม่น่าจะเกิดการแข็งค่าอย่างรวดเร็ว เป็นตัวช่วยไม่ให้เงินบาทพลิกกลับไปอ่อนค่าแรงจนเกินที่จะตั้งตัวได้