งอน เซียง ผู้นำเทรนด์บริโภคกัมพูชา
กระแสความนิยมการบริโภคในอาเซียนที่เดินตามเทรนด์โลกมากขึ้น
โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง
กระแสความนิยมการบริโภคในอาเซียนที่เดินตามเทรนด์โลกมากขึ้น เปิดโอกาสให้แบรนด์สินค้าและบริการข้ามชาติหันมาบุกตลาดในภูมิภาคนี้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นมองเห็นโอกาสตลาดเดียวกันนี้ด้วยเช่นกัน อย่าง อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดแฟรนไชส์ในกัมพูชา จากการนำแบรนด์สินค้าและบริการต่างชาติเข้ามาเจาะผู้บริโภคในประเทศ
งอน เซียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป ประเทศกัมพูชา ผู้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการบริโภคของชาวกัมพูชาที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด ด้วยการนำเข้าธุรกิจสินค้าและอาหารแบรนด์ข้ามชาติต่างๆ โดยร่วมกับพันธมิตรที่ทำตลาดในกัมพูชา จากเกือบทั่วทุกมุมโลก อาทิ บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ จากัวร์ และแลนด์โรเวอร์ เอวิส เจซีบี จอห์นเดียร์ เจแอลจี คาร์เชอร์ 3เอ็ม ทีซีเอ็ม เม็กเกอร์ แด็กชัน สเวนเซ่นส์ คอสต้า คอฟฟี่ บีบีคิว ชิกเก้น แดรี่ควีน และคริสปีครีม
“สิ่งดึงดูดสินค้าแบรนด์ใหม่ในประเทศกัมพูชา คือ การเป็นตลาดเปิดใหม่ซึ่งเป็นโอกาสของแบรนด์สินค้าหลากชนิด รวมถึงแบรนด์นานาชาติที่ต้องการเข้ามาทำตลาดในกัมพูชา ซึ่งยังมีพื้นที่ในตลาดรองรับอีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร และยานพาหนะ จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตลอดจนวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป ที่ทำให้ธุรกิจเหล่านี้เติบโตในอนาคต” เซียง กล่าว
ขณะที่กลุ่มบริษัท อาร์เอ็มเอ ถือเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในกัมพูชา โดยมีบทบาทใน 3 อุตสาหกรรมหลัก คือ ยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม และการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยกิจการได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2535 ที่อาศัยความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและแก้ไขปัญหาด้านยานยนต์ และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ มาก่อน โดยในปัจจุบัน อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป มีสำนักงานตั้งอยู่ที่พนมเปญ เสียมราฐ สีหนุวิลล์ และพระตะบอง
เซียง ได้เริ่มงานในอาร์เอ็มเอ กรุ๊ป ตั้งแต่ปี 2539 และเติบโตในองค์กรอย่างรวดเร็ว ดำรงตำแหน่งระดับสูงขององค์กรด้านบัญชีและการเงิน โดยปัจจุบันเป็นซีอีโอของอาร์เอ็มเอ กรุ๊ป ประเทศกัมพูชา ซึ่งบทบาทของเขามีส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในด้านธุรกิจยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจพาวเวอร์ เจเนอเรชั่น และธุรกิจอื่นๆ ที่มีความสำคัญกับผู้บริโภคในประเทศกัมพูชา
ก่อนหน้านี้ เซียงให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นถึงทิศทางของธุรกิจในกัมพูชาอีก 10 ปีข้างหน้าว่า วิถีชีวิตและกระแสนิยมของคนเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนให้ความสนใจกับสินค้าที่มีคุณภาพสูงมากขึ้น และนิยมแบรนด์สินค้านานาชาติมากขึ้น และจากการเข้าสู่เออีซีทำให้มองเห็นโอกาสของธุรกิจข้ามชาติที่มี รวมถึงความต้องการแรงงานเพิ่มสูงขึ้น แต่ด้วยทรัพยากรบุคคลที่จำกัดในประเทศ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งเห็นว่าประเทศในกลุ่มอาเซียนยังมีความขาดแคลนทางด้านนี้ แต่ยังมีประโยชน์อีกด้าน คือ อัตราภาษีนำเข้าสินค้าของประเทศในอาเซียนด้วยกันสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากเป็นนอกอาเซียนจะเสียภาษีเต็มรูปแบบ
ขณะที่เป้าหมายของอาร์เอ็มเอ กรุ๊ป กัมพูชา ในอนาคต คือ การสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความชัดเจนและต้องการเป็นที่ 1 ในตลาด รวมถึงต้องการสร้างบริษัทให้เป็นองค์กรที่มีผู้ต้องการเข้ามาร่วมงานด้วย พร้อมมองหาโอกาสการสร้างแบรนด์ใหม่ในทุกภาคส่วนและในทุกอุตสาหกรรม จากในปีนี้ได้เป็นผู้นำเข้าแบรนด์ใหม่เข้ามา คือ คริสปีครีม (Krispy Kreme) พร้อมกับวางเป้าหมายในปีหน้า เตรียมนำเข้าธุรกิจใหม่เพิ่มอีก 1-2 แบรนด์
วิสัยทัศน์ของซีอีโอ อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป ประเทศกัมพูชา ที่มองเห็นโอกาสธุรกิจภายในประเทศ


