posttoday

ดาวยั่ว คสช.

29 มีนาคม 2559

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและคงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย สำหรับคุณวัฒนา เมืองสุขผู้ได้รับเชิญจากคณะนายทหารเรียกไปพูดคุย

โดย...ขำ เคืองใจ [email protected]

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและคงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย สำหรับคุณวัฒนา เมืองสุขผู้ได้รับเชิญจากคณะนายทหารเรียกไปพูดคุย ซึ่งภาษาทางการใช้กันอยู่ตอนนี้ต้องเรียกว่า “ปรับทัศนคติ” สินะครับ

คุณวัฒนาให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “มีทหารประมาณ 2 คันรถ บุกมายังบ้านพักเพื่อนำไปปรับทัศนคติ แต่ตนเองไม่อยู่บ้าน จึงประสานทางโทรศัพท์ว่าไม่สะดวก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหารนัดให้ไปพบที่มณฑลทหารบกที่ 11 เวลา 11.00 น.”

กระทั่งวานนี้ คุณวัฒนาพร้อมพรรคพวก ได้แก่ คุณภูมิธรรม เวชยชัย คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง เดินทางไปพบนายทหารตามนัด สำหรับสองรายหลังเดินทางมาส่งในฐานะเพื่อนนักการเมือง เพราะตามข่าวรายงานว่า คุณวัฒนาแสดงสีหน้ากังวลไม่น้อย จึงต้องการกำลังใจโดยด่วนกระมัง 

อย่างที่กล่าวข้างต้นพฤติการณ์อย่างนี้ “ไม่ใช่ครั้งแรกและคงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย” อีกอย่างไม่ใช่เฉพาะกรณีคุณวัฒนาเท่านั้น เพราะช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่ทหารเชิญคุณวรชัย เหมะ อดีต สส.พรรคเพื่อไทยและแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไปปรับทัศนคติเช่นกัน

ย้อนเหตุการณ์กลับไป ไม่ใช่แต่อดีต สส.พรรคเพื่อไทย เคยมีอดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงบรรดาแกนนำมวลชนคราบนักการเมือง ทั้งจตุพร พรหมพันธ์ุ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สุเทพ เทือกสุบรรณ เหล่าหัวโจก กปปส. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ล้วนแต่สัมผัสบรรยากาศห้องสี่เหลี่ยมติดพัดลมแขวน มีทีวีจออ้วนให้ดูมาแล้วทั้งสิ้น 

แม้แต่คุณพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน ผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ทิศทางเศรษฐกิจ เคยให้สัมภาษณ์พิเศษหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ว่า “เขาเป็นผู้ถูกทหารเรียกไปปรับทัศนคติถึง 7 ครั้ง เรียกได้ว่ามากกว่านักการเมืองรายอื่นๆ” ฉะนั้น กรณีของคุณวัฒนาก็เหมือนนักการเมืองรายอื่นๆ นั่นล่ะครับ ยิ่งถ้าเทียบประสบการณ์ปรับทัศนคติยังอยู่ในระดับเบสิก  

หรืออาจเป็นเพราะระยะหลังคงคิดถึง คสช. จึงพยายามผลิตข้อความวิพากษ์วิจารณ์ จากนั้นส่งข่าวให้สื่อมวลชนลงตีพิมพ์ทางหน้าหนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ให้ถี่ขึ้น เพื่อจะได้มีชื่อติดหูติดตา สร้างความยั่วยวนใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะได้เข้าล็อกเชิญเข้าค่ายทหารเพื่อหวังทำลายสถิติคุณพิชัยกระมังครับ 

ทั้งที่ข้อเท็จจริง หลายต่อหลายท่านซึ่งถูกทหารเชิญไปพบ ไม่ได้หมายความว่าจะถูกทุบ ถูกทำร้าย แบบที่วาดภาพน่ากลัวจนออกมาโวยวายชั้นถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้วก็แหกปากร้องเรียนยูเอ็นเอชซีอาร์อะไรทำนองนั้น แต่หนักไปทางการสอบถามความเห็นว่า เหตุใดถึงมีทัศนคติอย่างนั้นอย่างนี้

บางท่านยังเคยแนะนำ คสช.ในทางเป็นประโยชน์ ไม่เชื่อลองสอบถามคุณพิชัย คุณจาตุรนต์ ฉายแสง หรือคุณสุเทพ ดูก็ได้ จะเห็นได้ว่า คสช.ปรับปรุงแนวทางการทำงานในเวลาต่อมาภายหลังการพูดคุยกับบุคคลทางการเมืองเหล่านี้  

แต่ในรายของคุณวัฒนานี่สิครับ ปากบอกมีอุดมการณ์ประชาธิปไตย แต่บทบาทที่แสดงออกมาผ่านสื่อ ประสานักเลงเรียกว่าลูกไม้เก่าๆ เน้นดราม่าโวยวายจนหาสาระแทบไม่ได้ จนไม่แน่ใจว่าจะแสดงความน่าเห็นใจดีมั้ย...