อยากจะซื้อกองทุนช่วงนี้ ซื้ออะไรดีละ
โดย ธนัฐ ศิริวรางกูร นักวางแผนการเงินอิสระ
โดย ธนัฐ ศิริวรางกูร นักวางแผนการเงินอิสระ
สวัสดีครับมาพบกับผม หมอนัทกันอีกครั้งนะครับ ช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมานั้นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี และค่อนข้างสม่ำเสมออย่าง กองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้ปรับราคาสูงขึ้นอย่างมากนั้น ปัจจุบันเองก็ได้เริ่มมีการปรับตัวลดลงให้เห็นบ้างแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเองก็ได้ส่งสัญญาณให้กับนักลงทุนแล้วว่า ให้เตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่เมื่อราคาของสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น นั้นเริ่มที่จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จะทำให้ตลาดเริ่มขายสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ-เสี่ยงกลางออก แล้วจะเริ่มเอาเงินกลับเข้าไปในตลาดหุ้นแทน เพื่อรับผลตอบแทนที่สูงมากขึ้นนั่นเองครับ
แต่ด้วยภาวะตลาดหุ้นของทางฝั่งสหรัฐ ฯ นั้น ที่ยังคงมีมูลค่าที่สูงอยู่ ความน่าสนใจจึงน้อยลง ส่วนประเทศญี่ปุ่นนั้นเองก็ยังคงแก้ไขปัญหาค่าเงินที่แข็งขึ้นได้อย่างยากลำบาก แน่นอนว่าค่าเงินที่แข็งขึ้นจะทำให้การส่งออกของญี่ปุ่นแย่ลงไปด้วย และล่าสุดทาง BOJ(Bank of Japan) เองก็ไม่ได้มีปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงแต่อย่างใด ซึ่งกว่าจะมีการปรับอีกครั้งก็คงกินเวลาประมาณ 2-3 เดือน โดยดูท่าทีของเศรษฐกิจอีกครั้ง ดังนั้นเศรษฐกิจโดยรวมก็ยังคงต้องลุ้นกันต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ทางยุโรปเองถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังคงอยู่ในภาวะที่เติบโตได้ช้าอยู่ ซึ่งต้องใช้เวลาซักพักใหญ่กว่าทุกอย่างจะเข้าที่
ในทางกลับกันด้านราคาหุ้นของตลาดเกิดใหม่นั้น ยังคงมีราคาไม่แพง สามารถที่จะหาผลตอบแทนได้อยู่ เราจึงเห็น Fund Flow ไหลเข้ากลุ่มประเทศเกิดใหม่มากขึ้น รวมถึงประเทศไทยด้วยครับ จึงไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นตลาดหุ้นไทยในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ได้ปรับตัวสูงขึ้นจดหลุดเทรนด์ขาลงของตลาดหุ้นไทยไปแล้ว(น่าจะอยู่ในกรอบ Sideway หรือไม่ก็เป็นขาขึ้น) และไม่เพียงแค่ตลาดหุ้นเท่านั้น แต่ตลาดตราสารหนี้เองก็ได้รับอานิสงส์ด้วยเช่นกันครับ มีเม็ดเงินไหลเข้าตราสารหนี้ไทยอีกด้วย
ดังนั้นจริง ๆ แล้วการลงทุนในกองทุนที่น่าสนใจในช่วงนี้ ก็น่าจะเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายเองก็ยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นแต่อย่างใด และอาจจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง รวมถึงมีกระแสเงินไหลเข้าจากต่างประเทศ กองทุนตราสารหนี้เองก็น่าจะได้ประโยชน์มากพอสมควรเลยทีเดียวครับ หรือ หลาย ๆ คนที่ชอบการลงทุนในหุ้นไทย ก็สามารถที่จะหากองทุนดี ๆ ลงทุนได้ แต่ความผันผวนก็จะค่อนข้างสูงเช่นกัน
และอีกสินทรัพย์นึงที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือ กองทุนที่ลงทุนในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ นั่นเอง ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติเองก็ให้ความสนใจมากขึ้นด้วย โดยเราจะเห็นได้ว่า Fund Flow เองก็เริ่มมีการไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่มากขึ้นครับ
ที่สำคัญ ผลตอบแทนของกลุ่มประเทศเหล่านี้ก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ในปีก่อนทำผลตอบแทนได้ไม่ค่อยดีเสียเท่าไหร่ครับ
แน่นอนว่า ในช่วงที่ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วยังไม่ไปไหนไกล การลงทุนในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่นั้นน่าสนใจที่เดียวครับ แต่ถ้านักลงทุนไม่แน่ใจว่าจะลงทุนกับประเทศไหนดี เนื่องจากมีกองทุนที่ไปลงทุนอยู่มาก และเน้นไปลงทุนในแต่ละประเทศของกลุ่มนี้โดยตรง ซึ่งหลาย ๆ คนก็อาจจะไม่มีความชำนาญ และดูไม่ออกว่าจะลงทุนกับที่ไหนดี เราก็สามารถเลือกกองทุนที่ไปลงทุนกับ กลุ่มนี้ได้ โดยลงทุนในกองทุนต่างประเทศที่ไปลงทุนในกลุ่มประเทศแทน เช่น เอเชียแปซิฟิก เอเชียเหนือ หรือ กลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาดเกิดใหม่ก็ได้ครับ ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงอีกทางหนึ่ง
จริง ๆ แล้วการเลือกกองทุนที่ค่อนข้างจะกระจายไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ต่าง ๆ กันมากกว่ากระจุกตัวแบบนี้ ก็ยังสามารถปรับไปใช้กับกองทุนอื่น ๆ ได้เช่นกันครับ เช่น หลาย ๆ คนชอบการลงทุนในกองทุน Healthcare มาก ๆ แต่เนื่องจากรับความเสี่ยงไม่ได้ ก็อาจจะไปลงทุนในกองทุนกลุ่ม silver age แทนก็ได้ ซึ่งยังคงมีอุตสาหกรรม Healthcare อยู่ในกองทุน แต่ก็มีการกระจายไปลงทุนในกลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มสินค้าความสวยความงาม ฯลฯ ด้วยครับ ก็ถือว่าได้กองทุนที่มีความเสี่ยงที่ลดลงไป
แต่แก่นแท้ของการลงทุนนั้น ไม่ใช่การคัดเลือกสินทรัพย์แต่อย่างใด หรือแม้แต่การจับจังหวะการลงทุนเองก็ยังมีโอกาสผิดพลาดเช่นเดียวกัน วิธีที่จะควบคุมความเสี่ยง และทำให้เรามั่งคั่งระยะยาว ได้ก็คือการจัดพอร์ต การลงทุนอย่างเหมาะสมครับ โดยที่เราอาจจะแบ่งสัดส่วนการลงทุนมาลงทุนในกลุ่ม ตลาดเกิดใหม่บ้าง ประมาณ 10-15% ของสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหมดของพอร์ตการลงทุนของเราครับ หรือพูดง่าย ๆ ว่ากองทุนหุ้นต่างประเทศนั้น เราก็ไม่ควรที่จะเอาเป็นแกนหลักของพอร์ต เพราะจะทำให้ความผันผวนสูงนั่นเองครับ
นอกจากนี้เอง การที่เรามีการวางแผนการเงิน การลงทุนอย่างดีแล้ว จะทำให้เราปรับสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศได้อย่างสบายใจมากขึ้นไปด้วย เพราะว่าถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้น อย่างน้อย ๆ พอร์ตการลงทุนของเราก็ไม่ได้ผิดเพี๊ยนไปมากเท่าไหร่ ยังคงที่จะได้ผลตอบแทนกลับเข้ามาบ้างจากสินทรัพย์อื่น ๆ
ดังนั้น นักลงทุนเองก็ควรที่จะมีการจัดวางแผนการเงินอย่างถูกต้องก่อน จึงเริ่มลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งถ้าอยากเริ่มลงทุนแล้วละก็ อาจจะเริ่มจากกองทุนตราสารหนี้ที่ผมได้แนะนำไป ก็ถือว่าเป็นกองทุนที่นักลงทุนสามารถจะพิจารณาลงทุนได้ก่อนเป็นอันดับแรก ๆ เลยครับ แล้วพบกันในฉบับหน้า สวัสดีครับ


