ตรรกะแปลกๆ

โดย...หงส์แดง [email protected]

ทุกวันนี้เรื่องที่ว่าด้วยความเป็นเหตุเป็นผลในสังคมไทย รู้สึกจะดูแปลกๆ ไปชอบกล

ไล่มาตั้งแต่ประเด็นที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดในเวลานี้อย่าง “ความรับผิดชอบทางจริยธรรม” ของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ภายหลังศาลอาญาพิพากษาว่ามีความผิดจากกรณีเงินค่าโฆษณาในรายการคุยคุ้ยข่าวเมื่อครั้งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อสมท 138 ล้านบาท

แม้ว่าศาลชั้นต้นจะบอกว่าพิธีกรชื่อดังรายนี้มีความผิด แต่ปรากฏว่าคุณสรยุทธก็ยังสามารถกลับมาออกหน้าจอจัดรายการได้ตามปกติ โดยสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ได้ให้เหตุผลว่าคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด

พูดแบบนี้ไม่มีใครเถียงหรอกครับ พูดอีกก็ถูกอีก เพราะคดีนี้ยังไม่สิ้นสุดจริงๆ ต้องลุ้นกันต่อไป อย่างน้อยก็ในชั้นของศาลอุทธรณ์ หรืออาจต่อไปถึงปลายทางที่ศาลฎีกา ซึ่งย่อมเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะให้คุณสรยุทธทำงานตามปกติจนกว่าคดีจะจบ

ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการไล่ล่าคุณสรยุทธในแบบที่ไม่ให้มีที่ยืนในสังคม เนื่องจากคดียังอยู่ในระหว่างการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม จึงสมควรให้ทำหน้าที่ได้ต่อไป แต่จะไม่มีท่าทีใดที่จะเป็นการแสดงออกถึงจริยธรรมในวิชาชีพบ้างเหรอ เช่น การลดบทบาทตัวเองลง ไปทำงานเบื้องหลังจากเดิมที่อยู่เบื้องหน้า

คงต้องรอดูองค์กรวิชาชีพสื่อที่เริ่มทยอยกันออกแรงกดดัน จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ หรือที่สุดแล้วจะเป็นเพียงไฟไหม้ฟางเหมือนเดิมและลืมๆ กันไปเหมือนเดิม

อีกเรื่องที่เห็นว่าเข้าข่ายตรรกะแปลกๆ เห็นจะเป็น ข้อเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้อเสนอข้อที่ 16 ว่าด้วยประชาธิปไตยในระยะเปลี่ยนผ่าน ซึ่งคงผ่านตากันไปพอสมควรแล้ว

“คณะรัฐมนตรีจึงเห็นว่า หากบัญญัติเนื้อหาและการบังคับใช้รัฐธรรมนูญเป็นสองช่วงเวลา คือ ช่วงเฉพาะกิจหรือเฉพาะกาลในระยะแรกซึ่งอาจไม่ยาวนานนัก โดยใช้หลักเกณฑ์อย่างหนึ่งเสมือนข้อยกเว้นตามความจำเป็นแห่งสถานการณ์ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองแต่อยู่บนพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้ง สส.ในระดับหนึ่งอย่างมีดุลยภาพในช่วงเปลี่ยนผ่าน

และช่วงที่จะใช้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญในระยะต่อไปซึ่งสอดคล้องกับหลักการสากลมากขึ้นและเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่ลดข้อจำกัดต่างๆ ลงให้มาก ดังนี้น่าจะแก้ปัญหาและอธิบายให้เป็นที่ยอมรับแก่ประชาชนและนานาชาติได้” สาระสำคัญของข้อเสนอ ครม.

รัฐบาลบอกเสมอว่า ต้องการให้ประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่มั่นคงและยั่งยืน แต่ทำไมต้องให้มีการบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นสองช่วง เสมือนหนึ่งประชาธิปไตยครึ่งใบ

ถ้าอยากให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยที่ดีอย่างที่คณะรัฐมนตรีหวัง ทำไมถึงไม่ปล่อยให้เป็นไปตามครรลอง อย่างการให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาสานต่องานปฏิรูปประเทศ ภายใต้กติกาที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ โดยไม่ต้องมีเงาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาคุมอีกที

คสช.ก็อยู่เท่าที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติเคยอยู่ รุ่นพี่อยู่แค่ไหนเราก็อยู่แค่นั้น ไม่ต้องมีของขวัญแทนใจ

ไม่รู้เหมือนกันว่า อาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายกำลังคิดอะไรอยู่

ส่วนตัวได้แต่หวังว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์คงไม่มีตรรกะแปลกๆ ออกมาให้เห็น