เจรจาเพื่อ...

โดย...ขำ เคืองใจ [email protected]

เห็นพาดหัวข่าวไม่กี่วันมานี้ “ทักษิณขอเจรจา” หะแรกนึกว่าตนเองหยิบหนังสือพิมพ์เมื่อแปดปีที่แล้วมาอ่าน  ยิ่งเปิดทีวีมีผู้ประกาศข่าวหน้าแฉล้มรายงานข่าว “นายทักษิณอยากเจรจาสร้างความปรองดอง” เริ่มเอะใจ  สื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ เป็นอะไรกันพร้อมใจขุดข่าวในอดีตมาเสนอ

ถึงบางอ้อ เมื่อตอนแจกแจงรายละเอียดของข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ จากนั้นมีการแปลเป็นข่าวภาคภาษาไทยแจกจ่ายสื่อให้ช่วยกันโหมกระพือในช่วงตรงกับวันมาฆบูชานั่นเอง

ว่าไปแล้วเหมือนย้อนความซ้ำซากนั่นละครับ... เพราะถ้าท่านใดติดตามการบริหารงานในรัฐบาลทักษิณ เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย กระทั่งมีการชุมนุมขับไล่ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เข้ายึดอำนาจ

คุณทักษิณ และ ครม.ถูกไล่บี้ตรวจสอบจนมีการฟ้องร้องดำเนินคดีต่างๆ ทำให้ต้องเปลี่ยนสถานะจากอดีตนายกรัฐมนตรีกลายเป็นนักโทษหลบลี้หนีภัยอยู่ต่างประเทศจนถึงบัดนี้ 

แต่บรรดาขบวนการทางการเมืองผู้ภักดี มีความพยายามเคลื่อนไหวทวงคืนอำนาจ ทั้งแหย่รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็ครั้งหนึ่งแล้ว มาถึงสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดฉากชุมนุมใหญ่มีการเผาบ้านเผาเมือง

ครั้งนั้นเคยมีคำถามจากสื่อมวลชน นอกจากเปิดโต๊ะเจรจากับแกนนำ นปช. เพื่อยุติปัญหาความวุ่นวาย จะมีการเจรจากับแกนนำตัวพ่ออย่างคุณทักษิณหรือไม่

คำว่า “เจรจา” จึงเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล คมช. รัฐบาลพลเรือน บางสมัยมีกระแสข่าวนายทหารคนนั้นคนนี้แอบไปเจรจาบ้าง แต่ผู้ตกเป็นข่าวยืนยันไม่เค้ยไม่เคยเจรจา

ไม่ต่างกับยุคนี้ที่คุณทักษิณออกปากผ่านสื่อต่างประเทศถึงสองแห่งในเวลาไล่เลี่ยกัน เสนอตัวขอเจรจา ซึ่งดูจะสวนทางกับความต้องการของคุณทักษิณ รวมถึงบริวาร เพราะมักมีคำกล่าวจากคุณทักษิณก็ดี สมาชิกพรรคการเมืองที่คุณทักษิณให้การสนับสนุนอยู่ก็ดีว่า “อย่าคิดถึงคุณทักษิณเลย” “ขอให้ก้าวข้ามคุณทักษิณเถอะ”

ทั้งที่การบริหารบ้านเมืองควรก้าวไปข้างหน้า ไม่ควรสรรหาความไร้สาระมาคอยถ่วงความเจริญ ทำนองเดียวกับที่ทุกฝ่ายพยายามก้าวข้ามคุณทักษิณไปนานแล้ว แต่ใครกันแน่พยายามไม่ก้าวข้าม

ดังเห็นได้จากบทสัมภาษณ์ประหนึ่งการเปิดตัวของคุณทักษิณในช่วงสถานการณ์ร่างรัฐธรรมนูญกำลังจะเข้าสู่เส้นทางให้ประชาชนลงประชามติรับหรือไม่รับ สมาชิกพรรคเรียงหน้ารับกันเป็นลูกระนาด เรียกร้องให้รับฟังข้อเสนอคุณทักษิณ ...อ้าว! ไหงเรียกร้องกันนักหนาให้ก้าวข้ามทักษิณมิใช่หรือ????

อีกอย่างเรื่องของการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับคุณทักษิณ ข้อเท็จจริงทำได้อย่างไรก็ในเมื่อฝ่ายหนึ่งมีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อีกฝ่ายมีสถานะเป็นนักโทษ เว้นเสียแต่คุณทักษิณกำลังสำคัญตนผิด คิดว่าเป็นผู้มีอำนาจเหนือกฎหมาย

ส่วนการแสดงความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญเป็นอีกเรื่องที่คุณทักษิณมีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้อยู่แล้ว จึงไม่ได้อยู่ในชั้นเจรจาความอะไรกัน

ฉะนั้นที่บอกว่าจะเจรจาคงไม่พ้น “ขอนิรโทษกรรม” ซึ่งก็เหมือนย้อนเรื่องเก่ามาเล่าใหม่โดยที่รู้คำตอบว่ามันเป็นไปไม่ได้ ตราบใดไม่มารับโทษทัณฑ์ก่อน