posttoday

ผลตอบแทนจากหุ้น ตอนที่ 1

20 มกราคม 2559

เมื่อปีที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยเราทำผลตอบแทนติดลบถึง 14 % คิดจาก SET INDEX เมื่อสิ้นปี 2557 ที่ 1,497.67 ไปจบสิ้นปี 2558 ที่ 1288.02..

โดย...กิติชัย เตชะงามเลิศ นักลงทุนหุ้นและอสังหาริมทรัพย์
 
เมื่อปีที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยเราทำผลตอบแทนติดลบถึง  14 % คิดจาก SET INDEX เมื่อสิ้นปี 2557 ที่ 1,497.67 ไปจบสิ้นปี 2558 ที่ 1288.02 โดยลดลงไปถึง 209.65 จุด หรือคิดเป็น 14% เมื่อเทียบกับอัตราเงินปันผลที่ประมาณ 3% นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย ก็จะขาดทุนประมาณ 11% โดยเฉลี่ย สร้างความผิดหวังไปตามๆกัน มิหนำซ้ำเปิดตลาดหุ้นปีใหม่มาก็ยังคงแนวโน้มลงมาตลอดโดยไปทำจุดต่ำสุดที่ 1220.96 เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา ลงจากปลายปีแล้ว 67.06 จุด คิดเป็น 5.21 %  ถ้าใครถือครองหุ้นไทยมาตั้งแต่ปลายปี 2557 ถึงวันที่ 11 มกราคม ก็ขาดทุนไป 16.21 % แล้ว

แต่นักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะมีผลขาดทุนมากกว่านี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่ลงทุนใน SECTOR ที่ลงหนักๆ อย่างเช่นกลุ่มพลังงาน ที่แทบจะเป็นขาลงอย่างเดียว โดยลงจาก 18,698.16 เมื่อสิ้นปี 2557 มาทำจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมาที่ 13,265.70 ลดลงไปถึง 5,432.46 คิดเป็น 29.05% เลยทีเดียว ยิ่งถือ PTTEP ตัวเดียวยิ่งช้ำใจหนัก ราคา PTTEP จาก 112 บาท เมื่อสิ้นปี 2557 มาทำจุดต่ำสุดที่ 41.25 บาทเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2558 ลดลงไปถึง 70.75 บาท คิดเป็น 63.17% ไปไม่ถูกเลยจริงๆ

นี่ขนาดว่าเป็นหุ้นใน SET 50 ยังลงระเนระนาดได้ขนาดนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันตกต่ำลงอย่างรุนแรง WTI CRUDE OIL จากราคาแถวๆ 53-54$/BARREL เมื่อสิ้นปี 2557 ลงมาอยู่ที่ 29.13 เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2558 ลงไปประมาณ 40 กว่าเปอร์เซนต์ เห็นอย่างนี้แล้ว BOOK VALUE ของ PTTEP คงต้องมีการ UPDATE กันอีกรอบ จากราคาน้ำมันที่ตกลงมาอีกรอบ ถ้าปรับตามราคาน้ำมันในปัจจุบัน นึกไม่ออกจริงๆว่า BV จะเหลือเท่าไหร่ จาก BV ล่าสุดเมื่อปิดไตรมาสที่ 3 ปีที่แล้ว อยู่ที่ 102.64 บาท

ดังนั้นนักลงทุนที่เห็น PVB ต่ำๆ นั้น คิดจาก BV ที่ยังไม่ได้ UPDATE ตามราคาน้ำมันในปัจจุบัน แล้ว PVB ที่แท้จริงคงไม่ใช่ตัวเลขที่ท่านเห็นแน่ๆ เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้คิดคำนึงถึงเสมอว่า BV ที่น่าจะนำมาคำนวน PBV ต้องเป็น BV ที่ UPDATE ตามความเป็นจริงเสมอ มิฉะนั้น เมื่อเห็น PTTEP ที่ราคา 70-80 บาทแล้วคว้ามับ เพราะนึกว่า PBV แค่ 0.7-0.8 เท่าเท่านั้น อย่างน้อยมี MARGIN OF SAFETY ส่วนหนึ่งคือจ่ายน้อยกว่าราคามูลค่าตามบัญชี

ในกรณีที่ธุรกิจนั้นยังขาดทุนอยู่ คำนวน P/E  ไม่ได้ นักลงทุนบางกลุ่มก็จะนำPBV BAND ในอดีตมาดูว่า เคยขึ้นไป หรือลงไปมากน้อยเพียงไหน แล้วสร้างเป็น BAND ขึ้นมา โดยใส่ STANDARD DEVIATION เพื่อไว้เปรียบเทียบความผันผวน ซึ่ง PBV BAND CHART นี้นักลงทุนสามารถที่จะแจ้ง มาร์เก็ตติ้งที่ดูแลบัญชีซื้อขายหุ้นของท่านให้ขอจากฝ่ายวิจัยของโบรคเกอร์ที่ท่านเป็นลูกค้าได้ หลายๆครั้งผมเองก็ใช้ PBV BAND ไว้ตรวจสอบดูความถูกแพงของหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการขาดทุนอยู่ในขณะนั้น แต่มีโอกาสที่จะ TURN AROUND ในเวลาไม่นาน

โดยBV ที่จะนำมาใช้คงจะต้องเป็น BV ที่ UPDATE เองด้วยส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะ ถ้าคาดว่าอาจจะขาดทุนอีก 2-3 ไตรมาสช่างหน้า ก่อนที่จะ TURN AROUND ได้จริงๆ คงต้องนำผลขาดทุน 2-3 ไตรมาสดังกล่าวมาคำนวนแล้วหักลบ BV ในปัจจุบัน เพื่อจะได้ BV ที่จะเป็นไปในช่วงข้างหน้า เป็นการลงทุนโดยหลักอนุรักษ์นิยม แล้วยิ่งถ้าหุ้นตัวนั้นลงมาที่ PBV บริเวณที่เคยต่ำสุดมาในอดีต(ยิ่งถ้าเราใช้ PBV BAND ที่มีระยะเวลายิ่งนานยิ่งดี ถ้าเป็นไปได้คงจะเป็น 10 ปีขึ้นไปเพื่อความปลอดภัยในการลงทุน) ยิ่งน่าสนใจในการลงทุน แต่ขอย้ำนะครับท่านต้องมีความมั่นใจว่าโอกาสที่หุ้นตัวนี้จะมีการ TURN AROUND มีความเป็นไปได้สูงเท่านั้น เขียนเพลินไปหน่อย เนื้อที่หมดแล้ว เรามาดู SECTOR อื่นๆในบทความหน้ากันครับ

ข่าวล่าสุด

"เท้ง ณัฐพงษ์" ลั่น! เลือก“รัฐบาลประชาชน” พาประเทศพ้นเทา-ทุจริต