ปัญหาใต้ลดลง?

โดย...สลาตัน [email protected]

ครบรอบ 12 ปี เหตุการณ์ปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยังคงเกิดเหตุต่อเนื่อง ไม่ได้เงียบหายหรือหมดไปจากพื้นที่ปลายด้ามขวาน  สารพัดปัญหาในพื้นที่ ความซับซ้อนในมิติด้านสังคม วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ อาชีพ ล้วนสะท้อนออกมาให้สังคมได้เห็น ความยุ่งเหยิงในมิติความมั่นคง การแก้ไขปัญหายังคงเป็นเพียงการระงับหรือผ่อนเบาให้เหตุการณ์ไม่หนักหนาไปกว่านี้

ต้องยอมรับว่า ปัญหาในพื้นที่ปลายด้ามขวานถูกจัดเป็นโซนอันตราย แบ่งไปตามเขตความรุนแรงในพื้นที่แต่ละจุด บางแห่งเป็นพื้นที่สีแดง คือ การก่อเหตุถี่กว่าจุดอื่น ส่วนพื้นที่สีเขียว คือ พื้นที่ปราศจากเหตุร้าย ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องตกอยู่ในห้วงความหวาดกลัว เพราะไม่รู้ว่ากระสุนปืน เสียงระเบิด เพลิงไหม้ จะถูกประโคมลงมาในบ้านเกิดพวกเขาเมื่อใด สิ่งเดียวที่คนในพื้นที่ทำได้ คือ การปรับตัวยอมรับกับสถานการณ์รุนแรงและอยู่กับความไม่สงบต่อไปเรื่อยๆ

ความไม่สงบในภาคใต้เกิดขึ้นมานานนับสิบปี ถูกยกระดับเป็นปัญหายืดเยื้อเรื้อรังมายาวนาน เมื่อครั้งรัฐบาลแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี การทำงานภายใต้การดำเนินการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือการปกครองโดยทหารอย่างเต็มรูปแบบ มีการนำผลงานแต่ละกระทรวง ทบวง กรม มาโชว์ต่อสาธารณชนว่าที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินการอะไรไปบ้างที่เป็นรูปธรรม และคืบหน้ามากน้อยอย่างไร ก็ว่ากันไปตามประสาแต่ละยุครัฐบาล ที่เมื่อครบปีจะหยิบยกผลงานเด่นๆ มาพรีเซนต์ต่อสื่อมวลชน

เมื่อโฟกัสผลงานด้านความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ควง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ร.อ.ไกรสรณ์ จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง เสนาธิการทหารอากาศ ร่วมแถลงผลงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ถึงการแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า “ในช่วงปีที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายทำให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำให้ปัญหาลดลงไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์”

จึงสงสัยว่า ปัญหาที่ท่านประวิตรชี้แจงว่าลดลงไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ มีอะไรบ้าง อยากให้ท่านแจกแจงรายละเอียดให้คนในพื้นที่รับรู้บ้าง เพราะลองไปถามคนในพื้นที่หลายเสียงตอบว่า “ปัญหาความรุนแรงยังคงมีขึ้น ไม่เคยเลือนหายไปจากความรู้สึก” หนำซ้ำหน่วยงานทหารบางจุดในพื้นที่บ่นว่า “ตกเบิกเงินเบี้ยเลี้ยง” สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าปัญหายังไม่ลดลง ล่าสุดรัฐบาลตั้งเป้าปี 2559 ลดเหตุรุนแรง พร้อมยืนยันว่าเม็ดเงินที่เทลงไปในพื้นที่คุ้มค่าหากแลกกับความไม่สงบ

รู้สึกเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ หากรัฐบาลมุ่งมั่นจะแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงประคองให้รอดผ่านไปแต่ละงบประมาณ