posttoday

เผด็จการศึกษา

25 กันยายน 2558

ไม่ใช่ เรื่องแปลกอะไรที่อยู่ดีๆ สหภาพยุโรป รวมถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนฯ

โดย...คุณบ๊งเบ๊ง [email protected]

ไม่ใช่ เรื่องแปลกอะไรที่อยู่ดีๆ สหภาพยุโรป รวมถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนฯ จะออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเร่งคืนประชาธิปไตย ขณะลุงตู่ไปเดินเฉิดฉายอยู่ที่นิวยอร์ก

เพราะเวลาลุงตู่ไปเยือนต่างประเทศ คำที่รัฐบาลไทยย้ำเสมอก็คือกำลังเร่งเดินตามโรดแมป “ประชาธิปไตย”

ทว่า สำหรับคนไทยนั้นต่างก็ลืมไปแล้วว่าโรดแมปประชาธิปไตยนั้นคืออะไร เพราะให้สัมภาษณ์แต่ละที ลุงก็โทษว่าประชาธิปไตยเลวอย่างนั้น นักการเมืองเลวอย่างนี้

ส่วนที่ว่า “ขอเวลาอีกไม่นาน” และ “ประชาธิปไตย 99.9%” ถือเป็นเพียงคำพูดขำๆ เท่านั้นเอง

เพราะหากรัฐบาลนี้ฝักใฝ่ประชาธิปไตยจริง คงไม่มีการเรียกคนเห็นต่างไป “ปรับทัศนคติ” ให้ทุกคนต้องคิดเหมือนกับรัฐบาล และขู่จัดการกับพวก “เด็กอนุบาล” ที่ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จริงไหมครับ?

การที่รัฐบาลรื้อโรดแมปเดิม โดยพังรัฐธรรมนูญที่ตัวเองเขียนมาให้เหลือคุณค่าเพียงแค่กระดาษทดเลขนั้นยิ่งย้ำชัดว่าไม่สนใจโรดแมปแม้แต่น้อย และก็ยิ่งย้ำชัดว่าเรากำลังอยู่ใต้การปกครองที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “เผด็จการ”

แต่ถามว่าเรารู้อะไรเกี่ยวกับระบอบเผด็จการบ้าง อันนี้น่าสนใจนะครับ เพราะระบบการศึกษาเรามักจะสอนให้คนเห็นคุณค่าของ “ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม” มากกว่าการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ

ทั้งหัวหน้าห้อง ทั้งประธานนักเรียน ล้วนมาจากการเลือกตั้งทั้งนั้น ไม่มีใครยึดอำนาจมาเป็น ขณะเดียวกัน เมื่อเป็นผู้นำแล้ว หลักการอย่างหนึ่งของผู้นำก็คือต้องใช้อำนาจอย่างเป็นธรรม ถูกตรวจสอบได้ ไม่ใช่ใช้อำนาจเทศนาคนอื่น และลงโทษคนอื่นด้วยกฎที่ตัวเองสถาปนาขึ้นใหม่

แปลกก็ตรงที่พอถึงเรื่องการเมืองแล้ว คนจำนวนหนึ่งต่างเดือดร้อนกับคำว่าประชาธิปไตยกันใหญ่โต ถึงขั้นเรียกกันว่าเป็นระบอบที่สร้างความวุ่นวาย ใช้เงินซื้อได้ ส่วนผู้ที่เชียร์ประชาธิปไตยนั้น “ไม่มีความรู้” พอ

จึงต้องสร้างเงื่อนไขให้ทหารเข้ามาใช้อำนาจโดยชอบ ให้อยู่ยาวๆ เพื่อ “ปฏิรูป”

คำว่าปฏิรูปในนิยามกองเชียร์ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการขุดรากถอนโคนฝ่ายตรงข้าม หรือเอากันตรงๆ ก็คือกำจัดพวก “ชินวัตร” ให้สิ้นซาก ถ้าลุงตู่อยากอยู่สัก 10 ปี คนพวกนี้ก็พร้อมใจสนับสนุนให้ใช้อำนาจแทนคนทั้งประเทศต่อไปเรื่อยๆ

อันที่จริงผมไม่ได้มีปัญหากับคนคิดแบบนี้หรอกครับ แต่คำถามสำคัญก็คือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ระบอบที่ไร้การตรวจสอบแบบนี้จะซื่อสัตย์กับประชาชน และคนส่วนใหญ่ยินยอมพร้อมใจด้วย

เมื่อไม่มีอะไรเป็นตัวชี้วัด ผมก็อยากเสนอให้หยุดกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ แล้วทำประชามติถามเลยครับว่า ประเทศนี้ควรเป็นประชาธิปไตย หรือเป็นเผด็จการ?

ถ้าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับ “อำนาจเบ็ดเสร็จ” หลักสูตรการสอนเรื่องหน้าที่พลเมือง ก็จะได้เลิกสอนเรื่องประชาธิปไตย เรื่องการกระจายอำนาจ หรือชุมชนเข้มแข็งได้แล้ว เพราะเป็นเรื่องน้ำเน่า เพ้อฝัน ทำไม่ได้จริง

ถ้าคิดว่าการเป็นเผด็จการนั้นดี ก็จงภูมิใจในความเป็นเผด็จการเถิดครับ เลิกเหนียมกันได้แล้ว

ข่าวล่าสุด

เส้นทาง “เถ้าแก่ส้ม” ร้อยล้าน ปั้นโชกุนเบตง–สายน้ำผึ้งฝางดังทั่วประเทศ