เป็นหูเป็นตา

โดย...ชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์

ปัญหาเรื่องยาเสพติดนับว่าเป็นภัยใกล้ตัวที่สามารถบ่อนทำลายชีวิตครอบครัว รวมถึงอนาคตของเยาวชนหากหลงผิดเข้าไปพัวพันยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้

แม้ประเด็นดังกล่าวหลายๆ รัฐบาลมีความพยายามจะกำจัดเรื่องนี้ให้หมดจากประเทศ แต่ว่าขบวนการค้ายาเสพติดซึ่งเปรียบได้ดั่งกับเชื้อราที่ฆ่าตายยาก เพราะเมื่อไปจัดการตรงนั้นก็มาเกิดใหม่ตรงนี้ ทำให้ไม่หมดไปจากประเทศไทยเสียที

และยิ่งน่าตกใจ คือ ขบวนการค้ายาได้ปรับเปลี่ยนวิธีการขายใหม่ โดยไปแฝงตัวตามพื้นที่ที่สะดวกและง่ายต่อการเข้าถึงของเยาวชน โดยจะเห็นได้จากการเข้าทลายแหล่งผลิตยาเคในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายนมสดและขนมปังปิ้งบังหน้า เพื่อให้ยากต่อการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ทว่าสุดท้ายไปไม่รอดถูกจับได้พร้อมของกลางยาเค

และน่าตกใจไปกว่านั้น เพราะยาชนิดดังกล่าวกลับมาระบาดอีกครั้ง โดยจะจำหน่ายให้กลุ่มวัยรุ่นนักท่องราตรี เพื่อเสพก่อนเข้าไปสนุกตามสถานบันเทิง

ทั้งนี้ ในทางการแพทย์ยาชนิดดังกล่าวถูกนำมาใช้เพื่อเป็นยาสลบให้กับคนไข้ก่อนทำการผ่าตัด แต่ถ้านำยาเคมาใช้ผิดประเภท เช่น ยาเสพติด โทษทัณฑ์ของมันจะออกฤทธิ์ที่ส่งผลต่อระบบประสาท และหากเสพในปริมาณมากๆ อาจทำให้ผู้เสพกลายเป็นบุคคลโรคจิตได้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

นอกจากนี้ หากผู้ใดนำยาดังกล่าวมาผลิตเป็นสิ่งเสพติดเพื่อขาย นำเข้าหรือส่งออก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 1 แสน-4 แสนบาท

ส่วนผู้เสพต้องมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่น-1 แสนบาท ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเป็นหูตาให้เจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้เข้ามาบ่อนทำลายชาติ ครอบครัว สังคม และทุบโต๊ะ...เลยว่า เรื่องเหล่านี้จะทุเลาเบาบางลง