หงุดหงิดในกรงคสช.

โดย...อสนีบาต  

ตรงไปตรงมา ตามสไตล์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาตัดพ้อไม่ใช่อัศวินขี่ม้าขาวเข้ามากอบกู้สถานการณ์ประเทศไทย ดีไม่ดีม้าที่กำลังขี่เป็นม้าขาเป๋ด้วยซ้ำ หลายคนยอมเสียสละเป็นรัฐบาล ยังโดนด่าอย่างไร้เหตุผล มีรัฐมนตรีอยากจะ ลาออกกันอยู่แล้ว

...... ยิ่งได้อ่านจดหมาย นักการเมืองใหญ่โจมตีรัฐบาลภายหลัง คสช.ไม่อนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ ร่ายยาวทำนองว่า คสช.บริหารบ้านเมืองผ่านมาหนึ่งปีมีแต่เสียของ เศรษฐกิจย่ำแย่ โครงการใหม่ไม่เกิด

..... อืม! อ่ะนะ ครม.เพิ่งมีมติ อนุมัติโครงการมอเตอร์เวย์หลายเส้นทาง   ย้อนกลับไป รัฐบาลเร่งเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าหลายสี  ลุยเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด 

อ๋อลืมไป  พรบ.อำนวยความสะดวกจะมีผลบังคับใช้วันที่ 21 ก.ค.ซะด้วย 

มิพักกล่าวถึง พรบ.การชุมนุมสาธารณะที่รัฐบาลประชาธิปไตยทำคลอดไม่ได้สักที เพิ่งประกาศลงราชกิจจานุเบกษาในรัฐบาลยุคนี้

โอ้ย!  โครงการใหม่ไม่เกิดตามที่ท่านว่า แต่ดูเหมือนหลายเรื่อง หลายงานหลั่งไหลออกมาชนิดจำไม่หวาดไม่ไหว เหอเหอ

...... นักการเมืองผู้อึดอัด  ยังเขียนจดหมายตีโพยตีพายพาลกล่าวหานโยบายปรองดองล้มเหลว เพราะไม่ส่งมอบประชาธิปไตย(ซะงั้น)

......  ตอนท้ายจดหมาย กลับมาที่เรื่องถูกปิดกั้นเสรีภาพการเดินทาง ถือว่าขัดกฎบัตรสหประชาชาติโน่นเลย

เรียกว่าสาธยายมาทั้งหมดไม่มีอะไรมาก นอกจากหงุดหงิดออกนอกประเทศไม่ได้

...... อสนีบาต..... ไม่ใช่กระบอกเสียง คสช. ไม่จำเป็นต้องแก้ต่างอะไรให้  สาธารณชนรับรู้ดีต่อการทำงานรัฐบาลคสช. เพียงแต่สัมผัสวิธีคิดนักการเมืองใช้วิธีเหมารวมการบริหาร คสช.หนึ่งปีก็ได้แต่สมเพช คนเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีมีภูมิปัญญาเท่านี้เองหรือ

...... การหาเหตุอยู่ฝ่ายเดียวไม่แปลกหรอกความปรองดองไม่สำเร็จเพราะมีพวกยึดถือตนเองเป็นที่ตั้ง หรือมีความเป็นประชาธิปไตยแต่ใช้ไปในลักษณะเผด็จการรัฐสภา

...... ไม่จำเป็นต้องเที่ยวไปพลิก นสพ.ฉบับที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เขียนไว้เมื่อ 15 มี.ค. 2526  ด้วยวาทะ "กูไม่กลัวมึง"ตามที่นักการเมืองรายนี้นำมาห้อยโหนต้านเผด็จการ

...... เอาแค่ไปสอบถามคนเดินดินกินข้าวแกงไม่อาจเอื้อมแก่งแย่งชิงอำนาจแบบนักการเมืองไส้กระสือ พวกเขายังเข้าใจถึงเหตุผลที่ คสช.จำเป็นต้องเข้ายึดกุมอำนาจ

...... เพราะพฤติกรรมนักการเมืองระบอบประชาธิปไตยมิใช่หรือที่ใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์ให้พวกพ้อง จะด้วยความพยายามนิรโทษกรรมให้นักโทษหนีคดีโกงกินกลับมายืดอกสง่าผ่าเผยอยู่บนแผ่นดินนี้ได้ไงล่ะ

...... หรืออย่างที่ระบุว่า ถูกปิดกั้นสิทธิเสรีภาพทางความคิด กรุณาย้อนกลับไปมองตนเองเถิด กรณีเขียนจดหมายพล่าม พรรณนาส่งไปยังสื่อต่างๆ ให้ได้รับการเผยแพร่

ถามหน่อยเถอะ คสช.ออกคำสั่งห้ามนำเสนอตรงไหน ส่งทหารมาปิดโรงพิมพ์หรือไม่

...... มิพักกล่าวถึง คสช.ระงับนักการเมืองรายนี้ออกนอกประเทศไว้ก่อนเนื่องจากมีเหตุผลลึกๆบางประการมากกว่าคำกล่าวอ้างถูกปิดกั้นเสรีภาพการเดินทางนะจะบอกให้!!!

.....................

.... จำไม่ผิด นี่ใกล้ครบ 66 ปีของอดีตผู้นำต้องคดีหลบหนีอยู่ต่างแดนเสียด้วย   บรรดานักการเมืองน้อยใหญ่ แกนนำวางบิล ต่างปรารถนาไปร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้นายใหญ่

แบบว่าขอไปแสดงตัวถึงถึงความภักดี ท่ามกลางบรรยากาศรัฐประหารกระมัง

แต่ทำไงได้  เพราะแต่ละคนล้วนมีชนักติดหลัง บางรายมีคดีสำคัญอยู่ในศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เห็นว่าเตรียมจะมีคดีทางแพ่งฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากความเสียหายโครงการจำนำข้าวเสียด้วย หากเดินทางไปแล้วไปลับไม่กลับมาจะทำอย่างไร

 ส่วนที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลในคดีปลุกระดมแต่อยากไปแฮปปี้เบิร์ดเดย์ อาจถูกมองว่าไปรวมตัวเคลื่อนไหวทางการเมืองกันอีก  จะทำอย่างไร

นี่ขนาด อดีตรัฐมนตรีที่หนีไปอยู่ต่างแดน หาญกล้าไม่แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อปปช.หลังพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี ก็ไปรวบรวมสมัครพรรคพวก ทั้งนักเคลื่อนไหวข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ทั้งสื่อมวลชนผู้รับใช้   ตั้งกองบัญชาการต่อสายเคลื่อนไหวต่อต้านคสช.ทางโซเชียลมีเดีย จนถูกขึ้นบัญชี ติดตามตัวอยู่ในขณะนี้ ก็ยังไม่กลับมาต่อสู้คดีในเมืองไทยเลย 

ฉะนั้น จะปล่อยส่วนที่เหลือจากกรงคสช.ให้บินเสรีไปได้อย่างไรเล่า 

....................

นักการเมือง ที่คสช.ไม่อนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ อาทิ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร         อดีตนายกฯ
นายวัฒนา เมืองสุข             อดีตรมว.พาณิชย์
นายจาตุรนต์ ฉายแสง          อดีตรมว.ศึกษาธิการ
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา   อดีตรองนายกฯ
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล    อดีต รมว.วัฒนธรรม
นายพิชัย นริพทะพันธุ์           อดีต รมว.พลังงาน ฯลฯ
นายจตุพร พรหมพันธ์            แกนนำนปช.