แจ๊ดตกม้าตาย

โดย...e-ช้าน [email protected]

เป็นเรื่องตลกร้ายที่ “บิ๊กแจ๊ด” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต น.1 ผู้เกรียงไกร ต้องตกม้าตายที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น

e-ช้าน...ไม่ใช่คนที่ชอบกระทืบซ้ำใคร แต่เรื่องการพกปืนไปให้ถูกจับถึงสนามบินต่างประเทศรอบนี้มันอดขำไม่ได้ เพราะได้กลายเป็นเรื่องฉาวที่ส่งผลกระทบไปหลายวงการ

เป็นอันว่าคนในบ้านบิ๊กแจ๊ดที่เป็นคนจัดกระเป๋าเดินทางให้ อันนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนจัด ที่นายตัวเองบอกว่าลืมไปแล้วว่ามีปืนกระบอกนี้อยู่ ซึ่งเป็นไปได้ว่านายตำรวจใหญ่ระดับนี้ย่อมมีปืนในครอบครองจำนวนมาก เผลอๆ อาจจะเป็นคนสะสมเสียด้วยซ้ำ แต่มันไปซุกอยู่ในกระเป๋าตอนไหนไม่รู้ หรือลูกน้องอาจหวังดีใส่ไปให้แต่ไม่ได้บอก

แต่ปัญหาที่ขยายวงออกไปก็คือ วันแรกที่ถูกจับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ให้สัมภาษณ์ว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 24 มิ.ย. ซึ่งมีคำถามว่าจะกลับมาได้อย่างไร เพราะญี่ปุ่นซีเรียสเรื่องความปลอดภัยและความไม่ชอบมาพากลมากที่สุดประเทศหนึ่ง

แค่รัฐมนตรีทำผิดเรื่องเล็กๆ เขาถึงกับต้องประกาศลาออกจากตำแหน่ง พบคนลากปืนขึ้นเครื่องจะเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไปได้อย่างไร

ความซวยของบิ๊กแจ๊ดอยู่ตรงที่เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.การท่าอากาศยานฯ บอกว่า ผลการตรวจสอบไม่พบว่ามีวัตถุต้องสงสัยอยู่ในกระเป๋าเดินทางของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์...ทำให้ต่างสงสัยกันว่า อ้าว...แปลว่าบิ๊กแจ๊ดไปซื้อปืนที่ญี่ปุ่นและจะแอบขนกลับ เหมือนที่นักศึกษาไทยลักลอบเอาปืนขึ้นเครื่องที่ปากีสถาน

กรณีนี้เป็นไปไม่ได้ที่คนระดับนี้จะบ้าจี้คิดได้แค่นั้น เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าขั้นตอนการจะนำวัตถุอันตรายขึ้นเครื่องนั้นมีระเบียบมีขั้นตอน

แต่ความซวยดันมาอยู่ที่เครื่องสแกนของสุวรรณภูมิไม่เจอสิ่งผิดปกติ ความไม่ปกติดันไปโผล่ที่ญี่ปุ่น มันจึงกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ เพราะญี่ปุ่นไม่ยอมความง่ายๆ แทนที่จะได้กลับเมืองไทยตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.บิ๊กแจ๊ดก็เลยต้องกินปลาดิบญี่ปุ่นต่อ

ความซวยที่ตามมาก็คือ ลูกชายของบิ๊กแจ๊ดนำเอกสารหลักฐานบินไปแสดงให้ทางญี่ปุ่นดูว่าปืนกระบอกนี้เป็นของพ่อจริงๆ และมีหลักฐานการซื้อขายถูกต้อง ผลก็คือทำไมการท่าอากาศยานฯ บอกว่าไม่เห็น และมันผ่านเครื่องสแกนไปได้อย่างไร แปลว่าการตรวจสอบของสนามบินสุวรรณภูมิมีความหละหลวม

คราวนี้เดือดร้อนถึงรัฐบาล เพราะลำพังถูก ICAO ชักใบแดงนี่ก็ปวดเฮดหนักพออยู่แล้ว ดันมาเจอเรื่องปืนกระบอกกระจิ๋วเข้าไปอีก นายกฯ ประยุทธ์ต้องสั่งให้ ผบ.ตร.ไปหาข้อเท็จจริงมาตอบ

ถ้าเคลียร์เรื่องนี้ไม่ลงจะกระทบเป็นลูกโซ่ ทุกวันนี้รัฐบาลของท่านนายกฯ ก็มีปัญหาให้ปวดตับมากพออยู่แล้ว แต่คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามดันมากวนใจให้หงุดหงิดอีก

วันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เลยงัดมาตรา 44 ทุบโต๊ะย้ายข้าราชการและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไป 70 กว่าคน เงิบกันไปทั้งบาง เศรษฐกิจก็แย่ น้ำท่าก็แล้ง คนจะอยู่ยาวๆ ทำไมมาเจอแต่เรื่องให้ปวดหัวทุกวันไม่หยุดหย่อนเสียจริง