ช.การช่างดึงรุ่นใหม่คุมทัพรับยุคดิจิทัล

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของบริษัทรับเหมาก่อสร้างอันดับต้นๆ ของเมืองไทยอย่างบริษัท ช.การช่าง ที่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหารองค์กรใหม่ในรอบ 43 ปี หลังจากที่ก่อตั้งธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2515 โดยดึงทายาท สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ บุตรสาวคนโต วัย 41 ปี ของ ปลิว ตรีวิศวเวทย์ มานั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมกับแต่งตั้ง ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ ซึ่งเป็นบุตรชาย วัย 38 ปี ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ก.ค. 2558  

ปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง เล่าว่าธุรกิจในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการบริหารงานมากขึ้น โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยี สารสนเทศหรือทางด้านไอที ซึ่งกรรมการสรรหาบุคลากรของบริษัท จึงมีมติร่วมกันว่าควรจะหาคนรุ่นใหม่มานั่งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง เพื่อรับมือกับการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งจะทำให้บริษัทมีความพร้อมและมีศักยภาพมากยิ่งขึ้นที่จะผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งมีความคล่องตัวในหลายๆ ด้าน

“การทำงานที่เป็นมืออาชีพของคนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ในการทำงาน จะมีมุมมองใหม่ๆ มีวิธีการบริหารงานที่ทันสมัย ขณะที่ผู้บริหารรุ่นเก่าอย่างผมจะยังคงนั่งตำแหน่งกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริหารก็จะยังให้คำแนะนำการทำงาน เพื่อจะทำให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน รับมือกับภาวะที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความท้าทายรอบด้าน” ปลิว กล่าว

สุภามาส ได้ร่วมงานกับบริษัท ช.การช่างตั้งแต่ปี 2549 ในตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ สำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ และได้เลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ในปี 2552 นอกจากนี้ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีเค พาวเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ช.การช่าง ที่ดำเนินธุรกิจพลังงานทางเลือกในปี 2554

หนึ่งในภารกิจสำคัญที่ได้รับมอบหมายคือการนำ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จนประสบความสำเร็จ และได้ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และกรรมการบริษัท ซีเค พาวเวอร์ มาตั้งแต่ปี 2555 ล่าสุดบริษัท ซีเค พาวเวอร์ ประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุนเพื่อซื้อหุ้นในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งทั้งด้านการเงินและกำลังการผลิตไฟฟ้า รวมถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัท ซีเค พาวเวอร์ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET 100 เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา

สุภามาส กล่าวว่า แนวทางการบริหารงานของตนนั้น จะเน้นประสานงานกับคนรุ่นก่อนหน้า เนื่องจากองค์กรได้มีการวางระบบมาดีตั้งแต่แรก แต่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยน นอกเหนือจากการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้นแล้ว การขยายงานในไลน์ธุรกิจใหม่ๆ ก็อยู่ระหว่างการพิจารณา เช่นการขยายงานใหม่ๆ เช่น เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการขายและเช่า เป็นต้น

“องค์กรในปัจจุบัน มีการดึงคนรุ่นใหม่มานั่งเป็นผู้บริหารระดับสูง แต่การบริหารงานยังต้องประสานงานกับคนหลากหลาย ทั้งคนรุ่นก่อนหน้าและคนใหม่ที่อายุน้อยกว่า ขณะที่ความเป็นผู้หญิงเชื่อว่าความอ่อนโยนจะช่วยให้งานประสบความสำเร็จ” สุภามาส กล่าว             

จะเห็นได้ว่าการมีนักบริหารรุ่นใหม่เข้ามาร่วมทีมบริหารระดับสูง ทำให้เกิดการผสานจุดแข็งของคนรุ่นก่อตั้งบริษัทกับคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งส่งผลให้ทีมผู้บริหารมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และพร้อมที่จะเดินหน้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจก่อสร้างการลงทุนในโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งจะทำให้บริษัท รวมไปถึงเศรษฐกิจไทยเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง