คาหนังคาเขา

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

เป็นประเด็นที่น่าเศร้าสลดใจ เมื่อพบหลุมฝังศพชาวโรฮิงยาจำนวนมาก ถูกฝังในป่า อ.สะเดา จ.สงขลา ใกล้ชายแดนมาเลเซีย

ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องเกี่ยวพันกับความเป็นธรรมเท่านั้น แต่ทว่ายังส่งผลกระทบกลายเป็นปัญหาระดับประเทศ

สาเหตุเนื่องจากสหรัฐอเมริกาจัดอันดับให้ไทยอยู่บัญชีกลุ่มที่ 3 ที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำของกฎหมายสหรัฐอเมริกา และไม่มีความพยายามแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยจะมีการประเมินอีกครั้งในปีนี้

ประเด็นที่สหรัฐจับตามีทั้งปัญหาการใช้แรงงานในหลากหลายอุตสาหกรรม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการชี้ชัดถึงปัญหาชาวโรฮิงยา

ข้อมูลของสหรัฐ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของไทยทั้งพลเรือนและทหารได้รับผลประโยชน์จากการลักลอบนำเข้าชาวโรฮิงยาจากพม่าและบังกลาเทศ รวมทั้งสมรู้ร่วมคิดกันในการขายชาวโรฮิงยาเหล่านี้ไปขาย

การค้ามนุษย์ทำเป็นกระบวนการ นับตั้งแต่การผลักดันเรือชาวโรฮิงยาซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปมาเลเซียให้เข้าเขตไทย

จากนั้นมีการส่งต่อชาวโรฮิงยาไปให้นักค้ามนุษย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยบางคนทำการอย่างเป็นระบบในการโยกย้ายชายชาวโรฮิงยาจากศูนย์กักกันในไทย

ชาวโรฮิงยาจะถูกส่งไปยังภาคใต้ ถูกบังคับใช้แรงงานเป็นคนทำอาหาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในค่ายต่างๆ หรือถูกขายไปเป็นแรงงานบังคับใช้ในไร่นา บริษัทขนส่งทางเรือ และโดยเฉพาะแรงงานประมง

นอกจากนั้น ยังมีกระบวนการเรียกค่าไถ่ชาวโรฮิงยา และหลายครั้งชาวโรฮิงยาจบชีวิตลงด้วยการถูกฆ่า

ทั้งหมดคือข้อมูลที่เคยปรากฏขึ้นมาแล้ว และเป็นสิ่งที่ไทยต้องแก้ไข ไม่เช่นนั้นสหรัฐอาจประกาศคว่ำบาตรทางการค้า หรือกีดกันนำเข้าสินค้าไทย

แต่ทว่าศพของชาวโรฮิงยาที่ปรากฏขึ้นในครั้งล่าสุด รวมถึงข่าวสารต่างๆ ที่ออกมา กลายเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ทราบอย่างชัดเจนถึงขบวนการค้ามนุษย์ที่มีอยู่จริง

เรียกได้ว่าเป็นหลักฐานชนิดคาหนังคาเขา

จะจัดการแก้ไขอย่างไรก็คงต้องทำเสีย และต้องทำชนิดขุดรากถอนโคน

ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมา มันจะเกินการคาดคิด