ปฏิรูปวงการสงฆ์
ความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาในขณะนี้ กลายมาเป็นประเด็นด้านสังคม จากการขยับของสภาปฏิรูปแห่งชาติ
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาในขณะนี้ กลายมาเป็นประเด็นด้านสังคม จากการขยับของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่ต้องการปฏิรูปวงการสงฆ์จนก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมตามมา เพราะเป็นสิ่งที่เกี่ยวพันกับความเชื่อ รวมไปถึงเงินมหาศาล
และว่าไปแล้ว การปฏิรูปวงการสงฆ์เป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่ง
สังคมในปัจจุบันมีสารพัดปัญหา โดยเฉพาะในประเด็นด้านจริยธรรม และคุณธรรม ก็มาจากองค์กรศาสนาที่อ่อนแอ ผิดเพี้ยน เกิดลัทธิความเชื่อต่างๆ อย่างที่ไม่ควรจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างระบบบุญขายตรง มุ่งไปที่วัตถุ แทนที่จะเน้นคำสอน
หากจะสร้างค่านิยมในสังคมขึ้นมาใหม่ก็ต้องลงไปที่ศาสนา ลำพังการประกาศค่านิยม 12 ประการ จะไม่เพียงพอ ถ้าศาสนาไม่แข็งแรงแม้เพิ่มค่านิยมอีกสัก 12 ประการ ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ไปๆ มาๆ จะเป็นค่านิยม 1 โหล ค่านิยม 2 โหลเสียมากกว่า
แล้วการปฏิรูปวงการสงฆ์ ศาสนา ต้องเริ่มต้นที่ไหน
จุดสำคัญที่เลี่ยงไม่ได้ก็คือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ซึ่งมีอายุเกินกว่ากึ่งทศวรรษ ตั้งแต่ยุค จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ทนเห็นสภาพคณะสงฆ์ในยุคนั้นไม่ไหว
เหตุที่ทำให้ จอมพลสฤษดิ์ ต้องเข้ามาจัดการ มาจากหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน ก็มีการผลักดันกฎหมายสงฆ์ฉบับใหม่ขึ้นมา ได้แก่ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2484 โดยตั้งองค์กรต่างๆ มากมาย อาทิ สังฆสภา สังฆมนตรี คณะวินัยธร เลียนแบบการปกครองแบบประชาธิปไตยจ๋า
กฎหมายที่ว่าสร้างปัญหามากมาย โดยเฉพาะที่สังฆสภาที่มีการอภิปรายดุเดือด ไม่แพ้สภาทางโลก
ว่ากันว่า จอมพลสฤษดิ์ แอบไปได้ยินการอภิปรายในสังฆสภา ทำให้ตัดสินใจฉีก พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2484 ทิ้ง และนำกฎหมายสงฆ์ฉบับใหม่คือ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 มาใช้
เนื้อหาของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 จึงคล้ายๆ กับการปกครองยุคจอมพลสฤษดิ์ ที่รวมอำนาจไว้ที่มหาเถรสมาคม โดยแม้จะแก้ปัญหาหนึ่งได้ แต่ก็สร้างปัญหาอื่นตามมา อาทิ ทำให้สงฆ์บางพวกนิยมในสมณศักดิ์ พัดยศ ฯลฯ มากกว่าการดำเนินการตามพระธรรมวินัย
เรื่องนี้ยาว ต้องขอยกยอดไปอีกสักวัน


