ป๋าขอร้อง
“...ถ้าจะตั้งศาลฉ้อราษฎร์บังหลวงจะดีไหม เอาคดีโกงมาลดขั้นตอนให้เร็วขึ้น ช่วยกันตั้งดีไหมครับ...”
โดย...ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว
“...ถ้าจะตั้งศาลฉ้อราษฎร์บังหลวงจะดีไหม เอาคดีโกงมาลดขั้นตอนให้เร็วขึ้น ช่วยกันตั้งดีไหมครับ...”
คำกล่าวตอนหนึ่งของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในงานปาฐกถาพิเศษเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรครบรอบ 60 ปี เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2558
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก หากแต่เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2557 ในงานมอบประกาศนียบัตรหลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) รุ่นที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เชิญ พล.อ.เปรม ไปเป็นประธานมอบและกล่าวปาฐกถา
ป๋าเปรมได้กล่าวถึงปัญหาปราบคนโกงชาติ สาเหตุหนึ่งมาจากขั้นตอนล่าช้าและเสนอว่าควรจะมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย
รอบนี้ป๋าเปรมจึงเจาะจงลงไปให้ชัดด้วยการเสนอว่า ควรจัดตั้งศาลปราบปรามฉ้อราษฎร์บังหลวงขึ้นมาอีกหนึ่งศาล ซึ่งถ้าดูจากโครงสร้างศาลหลักๆ ในปัจจุบันจะมีศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลทหาร
เวลาที่มีผู้กระทำความผิดในคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปจะเข้าสู่ระบบศาลยุติธรรม ขณะที่นักการเมืองเกี่ยวโยงไปหลายศาล ทั้งศาลยุติธรรม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
คำขอร้องของป๋าเปรมครั้งแล้วครั้งเล่าอาจไม่ดังเท่าครั้งนี้ เพราะเป็นจังหวะปะเหมาะที่กำลังมีการปฏิรูปประเทศและกำลังยกร่างรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งศาลใหม่ต้องคำนึงถึงโครงสร้างอำนาจตุลาการต้องเปลี่ยนไป ไหนจะต้องถ่ายโอนบุคลากร เพิ่มงบประมาณ จึงไม่สามารถดำเนินการได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้
แต่ทุบโต๊ะได้เลย อาจนำไปสู่การปรับแก้กระบวนการพิจารณาคดีในหน่วยงาน องค์กรอิสระให้รวดเร็วขึ้น ก่อนนำไปสู่ความพยายามตั้งเป็นอีกแผนกหนึ่งในศาลยุติธรรม


