posttoday

ปรองดองคนโกง?

12 มกราคม 2558

นักการเมืองไทยไม่เคยรู้สึกรู้สาต่อพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายให้ชาติบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง

โดย...อสนีบาต

และแล้วคำกล่าวที่ว่าต้องปรองดองกับคนโกงดังก้องขึ้นมาอีกครั้ง เป็นเสียงดังที่ดูแปร่ง ชนิดที่เด็กรุ่นหลังตั้งคำถามคาใจ"บ้านเมืองจะสงบสุขต้องสนับสนุนคนโกงบ้านกินเมืองบริหารประเทศกระนั้นหรือ

ในเมื่อการตรวจสอบคนโกงเป็นไปตามกฎกติการัฐธรรมนูญที่กำหนด สมควรเดินต่อไปให้จบสิ้นกระบวนความ พิสูจน์ให้ได้ว่า"ผิดก็ว่าผิด ถูกก็ว่าถูก"

แต่นักการเมืองไทยไม่เคยรู้สึกรู้สาต่อพฤติกรรมที่ตนเองสร้างความเสียหายให้ชาติบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง

แบบอย่างอันน่าสมเพทถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรมโกงกลายเป็นสูตรสำเร็จ เมื่อภัยมาถึงต้องอ้างฉันมาจากประชาชน อาศัยตัวช่วยสุดท้ายด้วยการปลุกระดมนำมวลชนมากดดัน ข่มขู่ องค์กรตรวจสอบ

นักการเมืองไทยมิเคยส่องกระจกสำรวจความบกพร่องตัวเองสักครั้งเพื่อทบทวนปรับปรุงเปลี่ยนแปลง

ฉันใดก็ฉันนั้น แม้มีสิทธิเอ่ยอ้างมาจากประชาชน ย่อมมีประชาชนที่ไม่อาจยอมรับพฤติกรรมริยำตำบอนสร้างความเสียหายให้กับประเทศที่ตนเองอยู่อาศัยได้เช่นกัน

ทุกครั้งกับฉากเดิมตามท้องเรื่อง เมื่อถึงคราวถูกพิจารณาคดีความต้องคร่ำครวญโดนกลั่นแกล้งจะเอามวลชนมากดดันบ้างหล่ะ ข่มขู่จะเกิดเหตุการณ์นองเลือดเหมือน 14 ตุลาคม 2516 บ้างหล่ะ

..อสนีบาต...งุนงง ผู้หยิบเหตุการณ์ปัจจุบันเปรียบเทียบจะเหมือนเหตุการณ์ในอดีตคิดได้ยังไง เหมือนกันตรงไหน ปัจจัยแวดล้อมก็ต่างกัน ดูไปดูมาก็เหมือนพวกเพ้อเจ้อไปวันๆแล้วเรายังต้องการนักการเมืองเพ้อเจ้อบริหารประเทศกันอีกหรือ 

บรรดานักคิดนักร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังออกแบบกลไกควบคุมผู้เข้าสู่อำนาจ จะมีความหมายอะไรเล่าถ้าคนที่กำลังเข้าสู่อำนาจพยายามใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายอยู่ร่ำไป

ซ้ำร้ายกว่านั้น สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในสถานการณ์พิเศษ ต่อคำพูดของบรรดาผู้มีอำนาจควบคุมสถานการณ์ ต่างบอกว่า ต้องการเข้ามาขจัดความชั่วช้าเลวทรามออกจากระบบ  หวังปฏิรูปประเทศสู่ความเจริญก้าวหน้าไม่ให้เสียของ ทว่าคณะผู้มีอำนาจออกอาการรวนเรเสียเอง กระดกลิ้นจะปรองดองกับคนผิดเสียนี่ เพราะระบบอุปถัมภ์ เพราะความเป็นข้าราชการที่ถูกแปลความเป็นข้ารับใช้นักการเมือง เป็นข้ารับใช้พวกพ้องนายทุนหาได้เป็นข้าราชการรับใช้ประชาชน

ฟังกันแล้ว จะไม่ให้คลื่นไส้ได้อย่างไร

เมื่อนายตำรวจนายทหารที่อยู่ในสนช. พูดไม่ต่างกับนักการเมืองไทยหน้าเดิมๆว่า การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องพิจารณาให้ดีกล่าวแบบไม่ต้องเกรงอกเกรงใจ บอกกันตรงๆไปเลยดีกว่า"ข้าจะช่วยนักการเมืองโกงรอดมลทิน"นั่นเอง

อ้าว!แล้วคำกล่าวของพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ในวันให้โอวาทพิธีปิดและมอบประกาศนียบัตรหลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่กล่าวว่า"หลักธรรมาภิบาลใช้ไม่ได้กับคนโกงต้องใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ผู้บริหารต้องสร้างแบบอย่างที่ดี"อย่ายกมือไหว้คนโกง"

ดูท่าคงไม่ได้ผลแล้วหล่ะท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี