ถือโอกาสล้างบาง

สลาตัน

เรื่องร้อนๆ และวุ่นวายภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากที่ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฟันฉับสั่งจับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ที่วันนี้กลายเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมเครือข่าย เพราะความผิดที่แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง หากินกอบโกยผลประโยชน์อย่างมิชอบให้ตัวเองและพวกพ้อง รอบนี้ท่าทีของพล.ต.อ.สมยศ เอาจริง ฟันจริง ไม่เลี้ยงแล้วตำรวจนอกรีต

ถือเป็นเรื่องน่าชมเชยสำหรับ “บิ๊กอ๊อด” ที่ใจกล้าลงดาบเอาผิดนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ส่วนคดีจะว่าอย่างไรก็ต้องอยู่ที่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอน แต่ที่แน่นอนยิ่งกว่าอะไร เสียงปรบมือ คำชื่นชมจากประชาชนทั้งประเทศ คงได้ยินไปถึงพล.ต.อ.สมยศ แล้ว ด้วยผลของการล้างบางเครือข่ายพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ก็ทำให้คนไทยตาสว่าง และเชื่อได้ว่านี่คือเรื่องจริง เพราะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าขบวนการทุจริตคอร์รัปชั่นในสังคมไทย มันมีอยู่จริง และกอบโกยกันที่ตัวเลขเป็นร้อยล้านบาท
 
สลาตันหวังว่าบิ๊กๆ ตำรวจที่มีอำนาจอยู่ในมือทั้งหลาย จะใช้โอกาสนี่ล้างบางตำรวจนอกแถวที่หากินอย่างมิชอบให้หมดไปเสียที และสร้างความเชื่อมั่น สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของวงการตำรวจให้กลับคืนมา เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนอย่างแท้จริง และทำให้คนสามารถเดินไปหาตำรวจเมื่อเจอเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจได้อย่างภาคภูมิ ไม่ใช่วิ่งหนีตำรวจหรือเบื่อหน้าอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
 
ว่าแต่เมื่อตำแหน่ง ผบช.ก. ว่างลงเพราะพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ต้องไปนอนคุก แล้วแคนดิเดตสำคัญนายตำรวจนายใดจะเข้ามาทดแทน สลาตันสอดส่องมองไปยังลูกหม้อไว้ก่อน ที่เห็นก็มีชื่อของ “บิ๊กหมู” พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.ก. และ “บิ๊กโจ้” พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี รองผบช.ก. เช่นกัน สองบิ๊กตำรวจผู้นี้แหละที่น่าจะช่วงชิงขึ้นตำแหน่งผบช.ก. ส่วนใครจะได้ ก็คงแล้วแต่บุญวาสนา

สุดท้าย ฝากฝังส่งกำลังใจให้ พ.ต.อ.วีระวิทย์ วัจนะพุกกะ ผู้กำกับการกอง 5 กองบังคับการตำรวจจราจร ที่ผลักดัน คิดค้นไอเดียต่างๆ เพื่อมาดูแลงานจราจรเมืองกรุงให้ผู้ขับขี่ปลอดภัย และสะดวกสบายที่สุด ล่าสุดก็ผุดไอเดีย “ตรวจเมาหน้าผับ” หากเกิน ไม่จับ แต่ขอให้กลับแท็กซี่แทน ปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลมเพราะไม่อยากให้ไปเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
 
ซาวน์เสียงประชาชนกับโครงการนี้แล้ว สลาตันได้ยินมาว่าเห็นด้วย ก็ขอให้เอาจริงกันต่อไป