ชักจะหนักข้อ

โดย...e-ช้าน

ประเดิมกับ...e-ช้าน เป็นวันแรกและสัปดาห์ต่อไปจะพบกันทุกวันพฤหัสบดีและศุกร์...สัปดาห์ละสองวัน

ว่าแล้วก็มีเรื่องคันเข้าไปถึงขั้วหัวใจ...คนร่วมชาติอยากจะปฏิรูปประเทศกันขนานใหญ่ทั้งที...ไซร้ทหาร (ทำไม) ใจแคบจัง...นิ

ภาษาใต้แหลงตรงไปตรงมา...เขาอยากเห็นบ้านเมืองถูกผ่าตัดใหญ่...จะเปลี่ยนตับ เปลี่ยนไต เปลี่ยนหัวใจก็ทำเถอะพ่อคุณ...??? ขอแค่ฟังเจ้าของประเทศบ้าง...อย่าเห็นหน้าประชาชนเป็นยุงรำคาญ

...ขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน...เดิน...ถูกจับ

...เครือข่ายชาวบ้านภาคเหนือ...เดิน...ถูกจับ

...ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม...ตั้งเวทีเสวนาวิชาการ...ไม่ให้จัด

e-ช้าน ว่ามันหนักข้อ...นี่มันเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน...ปิดปาก ปิดหู ปิดตา

ใจร่มๆ แบะอกคับๆ ให้กว้าง...แล้วจะเห็นหัวใจเพื่อนร่วมชาติ...สีเดียวกัน

e-ช้าน เชื่อว่าไม่มีใครรักชาติมากไปกว่าใคร...อย่าหลงความเป็น “ฮีโร่” ที่คนบางกลุ่มมอบให้...มันไม่จีรังยั่งยืน

ผ่านมาหลายเดือน...แสนยานุภาพทางบริหารยังไม่ประจักษ์...ดันมาเจาะยางกระบวนการมีส่วนร่วมเสียอีก...

ตอนนี้ถนนทุกสายพุ่งไปที่กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่ง บวรศักดิ์ อุวรรณโณ นั่งหัวโต๊ะ...สืบเสาะมาได้ความว่ารัฐธรรมนูญเวอร์ชั่นใหม่...จะไม่ยาว

e-ช้าน ไปแอบฟัง บรรเจิด สิงคะเนติ หนึ่งในกรรมาธิการยกร่างฯ บรรยายนักศึกษาหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงแห่งหนึ่ง...บรรเจิด ฉายภาพ Form of Government มีโจทย์ใหญ่อยู่ที่การจัดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาล-รัฐสภา-ศาล ในการใช้อำนาจอธิปไตย

พูดให้ชัดก็คือ...จะทำอย่างไรให้ 3 อำนาจนี้แยกออกจากกันให้เด็ดขาด...แต่ต้องถ่วงดุล/คานอำนาจซึ่งกันและกัน

ปี 2540 เราออกแบบให้มีศาลรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นองค์กรคานอำนาจ และถ่วงดุล ทำหน้าที่รักษากติกาประชาธิปไตยและพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่แล้วระบบอุปถัมภ์ซึ่งเป็นสังคมวิทยาการเมืองในบ้านเรา...ทำให้ที่มาของตุลาการศาลถูกแทรกแซงจากพรรคการเมือง เพราะพรรคการเมืองบ้านเราไม่ได้เป็นพรรคของมหาชน แต่เป็นของกลุ่มทุนที่คุมอำนาจในพรรค คุมรัฐบาล และคุมรัฐสภา

พัฒนาการการเมืองไทยจึงย่ำอยู่แค่ระยะที่ 2 คือ ระบบรัฐสภาแบบอำนาจเดี่ยว (monist) แต่ยังไม่ก้าวไปสู่ระบบรัฐสภาสมัยใหม่ (retionalized parliamentary system) นั่นคือ...ระยะที่ 3

โจทย์ในเรื่องนี้คือ “เราจะสร้างบ้านประชาธิปไตยได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีเสาเข็มและดินยังอ่อนอีกด้วย”

ขอกระซิบต่อ...ตอนนี้กระบวนการยกร่างอยู่ภายใต้ 4 กรอบหลัก

1.สถาบันกษัตริย์กับประชาชน 2.โครงสร้างสถาบันทางการเมือง 3.ศาล/กระบวนการยุติธรรม และ 4.การปฏิรูปและการปรองดอง...ทั้งหมดนี้ต้องแตกต่างจากรัฐธรรมนูญปี 2540 และ 2550 และต้องให้ไม่ให้ระบบอุปถัมภ์มาทำลายรัฐธรรมนูญ (อีก)

ฟังจนจบ e-ช้าน จับใจความได้ว่า...เรื่องใหญ่ที่จะเถียงกันหนัก...คอยจับตา...จะเลือกตั้งนายกฯ โดยตรงหรือไม่...จะเลือกตั้งคณะบุคคลมาบริหารประเทศโดยตรงหรือไม่

...มาลุ้นกันมันแน่ๆ คร้าคุณขา