ช้างชนกัน
การประท้วงที่ฮ่องกงกลายเป็นที่จับตาทั่วโลก
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
การประท้วงที่ฮ่องกงกลายเป็นที่จับตาทั่วโลก
ประเด็นที่น่าสนใจไม่ใช่แค่การประท้วงเท่านั้น แต่ยังเป็นการเคลื่อนไหวในช่วงวันชาติของจีน
วันที่ 1 ต.ค.นี้ จะเป็นการเฉลิมฉลองวันชาติครั้งที่ 65 ของจีนยุคใหม่ ภายหลังจากที่กองทัพประชาชนแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนเอาชนะพรรคก๊กมินตั๋งได้สำเร็จ
สาธารณรัฐประชาชนจีนจึงกำเนิดขึ้นจากการสู้รบต่อสู้ที่ยาวนานถึง 28 ปี
แม้ว่าจะมีการสถาปนาจีนยุคใหม่ แต่ยังมีพื้นที่อีก 2 แห่งที่ถือเป็นความอัปยศของชาติ เนื่องจากถูกยึดครองจากชาติตะวันตกในสมัยที่เป็นอาณานิคม ได้แก่ ฮ่องกงและมาเก๊า
อังกฤษยึดครองฮ่องกงโดยการเช่าเป็นเวลา 99 ปี ขณะที่มาเก๊าถูกยึดครองโดยโปรตุเกส
ต่อมาอาณานิคมทั้งสองแห่งกลับเข้าสู่การปกครองของจีน เริ่มจากฮ่องกงในช่วงปี 2540 และมาเก๊าในปี 2542 โดยก่อนหน้านั้นอังกฤษพยายามเจรจาขอเช่าฮ่องกงต่อไปอีก แต่จีนไม่ตกลง
จีนประกาศนโยบาย หนึ่งประเทศ สองระบบ ในการปกครองอดีตอาณานิคมเหล่านี้ โดยได้สิทธิในการปกครองตนเอง และดำเนินนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การเงิน การพาณิชย์ ฯลฯ ตามระบบเสรีต่อได้อีกเป็นเวลา 50 ปี
ฮ่องกงและมาเก๊าเหมือนเป็นตราบาป 100 ปี ที่ชาติตะวันตกทำเอาไว้ โดยเงื่อนปมทั้งหมดยังสร้างเงื่อนไขจนถึงปัจจุบัน
เพราะชาวฮ่องกงที่กำลังอยู่ในวัยทำงานและที่ยังมีชีวิตอยู่ ต่างก็เกิดเติบโตภายใต้การปกครองของอังกฤษมาก่อน รากฐานความคิด ค่านิยม และความเชื่อจึงแตกต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ถูกหล่อหลอมด้วยค่านิยมของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน
จีนจึงพร้อมจะจ่ายทุกต้นทุน เพื่อรักษาบทบาทในดินแดนของตัวเองเอาไว้
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเรียกร้องการปกครองได้ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง จีนจะมีปัญหาความมั่นคงทันที เนื่องจากยังมีเขตปกครองตนเองอื่นๆ อีก อาทิ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ที่มีพื้นที่ถึง 1 ใน 6 ของประเทศจีน เขตปกครองตนเองมองโกเลียในเขตปกครองตนเองทิเบต
ปัญหาฮ่องกงจึงไม่ใช่เฉพาะเป็นปัญหาในฮ่องกง แต่ยังมีมิติอื่นๆ อีก โดยเฉพาะจีนมองว่ามีการแทรกแซงจากชาติตะวันตก
ผลกระทบต่อเนื่องจากการประท้วงที่ฮ่องกงจะตามมามากมาย เพราะมันไม่ต่างจากการที่พญามังกรกับช้างสารชนกัน
หญ้าแพรกทั้งหลายก็หัวแตกเป็นธรรมดา