เสียภาพลักษณ์
ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่จากสายตานานาชาติ เพราะด้วยท่าทีอันเป็นมิตรกับคนทุกเชื้อชาติ และรอยยิ้มที่แฝงไว้ซึ่งเอกลักษณ์
โดย...ชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์
ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่จากสายตานานาชาติ เพราะด้วยท่าทีอันเป็นมิตรกับคนทุกเชื้อชาติ และรอยยิ้มที่แฝงไว้ซึ่งเอกลักษณ์
ทว่า เดือนกว่าๆ ที่ผ่านมากลับมีข่าวเรื่องการฉกชิง วิ่งราวข่มขู่นักท่องเที่ยวปรากฏให้เห็นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ประเทศเป็นอย่างมาก
อย่างเหตุการณ์ปล้นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนใน จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างโดยสารรถแท็กซี่ไปสนามบินดอนเมืองเพื่อเดินทางกลับประเทศ
โดยถูกทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์สินมีค่าไปหมดเกลี้ยง ก่อนปล่อยลงรถทิ้งไว้กลางทางเปลี่ยว แต่นับว่าสาวเจ้ายังโชคดี เพราะแค่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยไม่ถึงแก่ชีวิต ขณะที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ในเวลาต่อมา
ถัดมาวันที่ 3 ก.ย. เกิดเหตุทำนองเดียวกันบริเวณถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยเป็นวัยรุ่นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ขนาบข้างมอเตอร์ไซค์นักท่องเที่ยวชาวจีน ก่อนลงมือกระชากกระเป๋าบิดหนีหายเข้ากลีบเมฆ
ล่าสุด กรณีคลิปชายวัยรุ่นเตะทรายใส่นักท่องเที่ยวหญิงชาวรัสเซียซึ่งนอนอาบแดดที่หาดนวล จ.ชลบุรี แม้เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่เดือน ต.ค. 2556 ขณะที่ตำรวจสามารถจับตัวชายในคลิปมาดำเนินคดีได้แล้ว
ทั้งหมดจึงเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและ กีฬา ต้องเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังตามสโลแกน “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต”
รวมทั้งฟื้นคืนความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวกลับคืนมา หากทำไม่ได้ ทุบโต๊ะ...เลยว่าประเทศไทยต้องเสียภาพลักษณ์กับเรื่องแบบนี้ไปอีกนาน


