เส้นทางพล.อ.ประยุทธ์

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

คงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดความคาดหมายที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะ คสช.และ ผบ.ทบ. ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นนายกฯ นี่สิ ถึงจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเท่ากับว่าการปฏิวัติที่ผ่านมา สุ่มเสี่ยงต่อการล้มเหลว

เมื่อขึ้นหลังเสือแล้วก็จะต้องขี่เสือ ไปจนกว่าจะรู้ผลสุดท้ายว่าเป็นอย่างไร

เส้นทางข้างหน้าของพล.อ.ประยุทธ์ จึงมีเดิมพันอันสูงลิ่ว

ไม่เพียงเฉพาะตัวพล.อ.ประยุทธ์เอง แต่ยังมีกองทัพทั้งกองทัพมาวางเป็นเดิมพัน เนื่องจากการปฏิวัติที่ผ่านมากองทัพถูกนำมาใช้เป็นกลไก เครื่องมือสำคัญของ คสช.อย่างเต็มรูปแบบ

ขณะเดียวกัน ความล้มเหลวหรืออยู่รอดของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ยังเกี่ยวเนื่องกับสถานภาพทางการเมืองในอนาคต จะเกิดความมั่นคงหรือเป็นภาวะความสุ่มเสี่ยงจะเกิดสุญญากาศ แล้วต้องมีการจัดเรียงระบบอำนาจกันครั้งใหม่

ผลกระทบที่ตามมาของรัฐบาลใหม่จึงมีมากมายเกินกว่าจะคาดคิด

แล้วความสำเร็จของพล.อ.ประยุทธ์อยู่ที่ใดบ้าง

คำตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือจะต้องได้รับการยอมรับจากประชาชน

แน่นอนที่สุดพื้นฐานสำคัญต้องอยู่ที่ความกินดีอยู่ดี

ปีนี้ทำใจกันไว้ล่วงหน้าได้ว่าเศรษฐกิจคงจะซบเซา เนือยๆ ไปเรื่อยๆ เนื่องจากปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปีก่อน ส่งผลมาถึงปีนี้ โดยไม่สามารถแก้ไขอะไรได้

แต่ในปีหน้าเศรษฐกิจต้องดีกว่าเดิม หากเป็นเช่นนั้นก็ถือว่าสอบผ่าน แต่ถ้าไม่ใช่พล.อ.ประยุทธ์จะตกที่นั่งลำบากอย่างแน่นอน

กองทัพเดินด้วยท้องฉันใด เสถียรภาพรัฐบาลย่อมอยู่กับเศรษฐกิจฉันนั้น

พล.อ.ประยุทธ์จึงมีเวลาถึงปีหน้าที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่า การบริหารประเทศของรัฐบาลใหม่สามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมา

ถัดมาที่เป็นสมรภูมิสำคัญก็คือการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน

ความยากจนคือรากฐานของปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม และถูกปลุกขึ้นมาเป็นปัญหาชนชั้นในสังคม

รัฐบาลใหม่ของพล.อ.ประยุทธ์จะต้องแก้ไขปัญหาความยากจน ปัญหาความเหลื่อมล้ำ แสดงให้เห็นว่าสามารถกระทำได้ดีกว่าเดิม

หากกระทำไม่สำเร็จ การขึ้นมาครองอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ ก็นับวันถอยหลังได้โดยเฉพาะมีเลือกตั้งใหม่วันใด ก็รับรองได้ว่าบ้านเมืองจะเข้าสู่วงจรปัญหาเดิมอีก

ช่วงเวลาถัดไปของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์คงไม่มีคำพูดใดจะเหมาะยิ่งกว่าคำพูดที่ว่า

ขอให้โชคดี