อเมริกันอีกแล้ว
เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนอีกครั้งถึงภาวะนักเลงโตคับโลกของสหรัฐอเมริกา
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนอีกครั้งถึงภาวะนักเลงโตคับโลกของสหรัฐอเมริกา
เมื่อสหรัฐออกรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ใน 188 ประเทศทั่วโลก ประจำปี 2014 โดยมีการปรับลดอันดับไทยลงไปอยู่ระดับ 3 ซึ่งต่ำสุดด้วย
แม้ว่า ลูอิส ซีเดบากา เอกอัครราชทูตประจำสำนักงานเฝ้าระวังและต่อต้านภัยการค้ามนุษย์ประจำกรุงวอชิงตัน ชี้แจงว่า สหรัฐจะยังไม่ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรกับประเทศทั้งหมดในทันที แต่จะรอดูความเคลื่อนไหวของรัฐบาลประเทศต่างๆ ว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาบ้าง
นี่แหละ ถือเป็นมาตรการกีดกันการค้า ที่ไม่ใช่การใช้ภาษีตอบโต้
ในอดีตสหรัฐเคยประสบปัญหาการขาดดุลการค้ามาตลอด และใช้วิธีการตอบโต้สินค้าของประเทศต่างๆ โดยการออกกฎหมายพิเศษๆ ขึ้นมาบ้าง ขึ้นภาษีตอบโต้บ้าง ฯลฯ
แต่ประเทศต่างๆ ก็รวมตัวกันสู้ และผลักดันให้ปัญหาการค้าของโลกเข้าไปอยู่ในองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ)
ดังนั้น มาตรการกีดกันการค้าโดยภาษี สหรัฐจะชี้นิ้วเล่นงานใครตามใจชอบไม่ได้อีก เพราะเมื่อมีปัญหาขึ้นมาก็จะเอาไปสู้กันในองค์การการค้าโลก และหลายกรณีสหรัฐเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
สหรัฐจึงจำเป็นต้องหาทางใหม่ หรือมุขใหม่ก็ว่าได้
นั่นก็คือการเล่นงานประเทศอื่นๆ ด้วยข้อหาแตกต่างไปจากเดิม
สิ่งที่ยกขึ้นมาอ้าง โดยเฉพาะปัญหาสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม ฯลฯ โดยประเทศที่เคยโดนเล่นงานมาแล้ว อย่างจีน
แต่งวดนี้เป็นไทยโดนเล่นงาน
การกล่าวหาเพียงฝ่ายเดียวครั้งนี้ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ แถลงตอบโต้ไม่ยอมรับรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของสหรัฐ เนื่องจากไทยได้ดำเนินการแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รวมถึงได้แลกเปลี่ยนกับสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการประเมินดังกล่าวจึงไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
อย่างไรก็ตาม สหรัฐก็ไม่ฟังหรอก
แต่สถานการณ์ปัจจุบันสหรัฐจะมาคว่ำบาตรหรือตอบโต้การค้าไทยคงต้องคิดหนัก เพราะความสัมพันธ์ สอง ประเทศอยู่ในภาวะย่ำแย่ จากพฤติกรรมของสหรัฐและรวมถึงตัวเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ภายหลังการปฏิวัติ
หากเกิดการคว่ำบาตรวันใด คงสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการต่อต้านสหรัฐขึ้นในประเทศไทยในทุกมิติ ไม่ว่าเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคม
จะทำให้ลุกลามใหญ่โตแค่ไหนอยู่ที่อเมริกาจะตัดสินใจ