เก็บตกจากอุดรฯ
ตั้งแต่รัฐประหาร ผมเพิ่งกลับมาคุยกับท่านผู้อ่านในวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งขอเรียนตามตรงไม่ชอบพูดคุยแลกเปลี่ยนภายใต้บรรยากาศแบบนี้
โดย...สันทัด กรณี
ตั้งแต่รัฐประหาร ผมเพิ่งกลับมาคุยกับท่านผู้อ่านในวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งขอเรียนตามตรงไม่ชอบพูดคุยแลกเปลี่ยนภายใต้บรรยากาศแบบนี้
ช่วงที่ผมหายไปสี่ซ้าห้าวัน โน่นครับอยู่ที่เมืองหลวงคนเสื้อแดงอีสาน ท่องไปในอุดรธานีเป็นหลัก ดูคน ดูเมือง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับใครต่อใครที่นั่น
ที่อุดรฯ ผมมีเพื่อนอยู่หลายคนคบกันมาตั้งแต่ยังนุ่งขาสั้นเรียนหนังสือ บางคนเป็นหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด บางคนเป็นดอกเตอร์สอนหนังสือ บางคนเป็นครู บางคนทำธุรกิจระดับใหญ่ ในกลุ่มนี้เจอกันเองบ้างภายใต้ข้อตกลง สังสรรค์ไม่มีการพูดคุยการเมือง เพราะบางคนแดงจัดระดับนำๆ ในพื้นที่ ซึ่งทุกคนต่างรู้ดีใครมีรสนิยมทางการเมืองอย่างไร
ผมลงเครื่องที่อุดรฯ หลังจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำการรัฐประหาร 1 คืน ทุกคนมีหน้าตาอยากรู้อยากเห็น ออกอาการอยากถาม แต่ยังไม่ค่อยกล้าถาม จนตกค่ำรวมตัวสังสรรค์ หะแรกก็เริ่มที่ถามสารทุกข์สุกดิบ ครอบครัวลูกเต้ากี่คน อายุเท่าไร เรียนไหน จบยัง จบทำงานอะไรกันอยู่ ฯลฯ...
ครับ...สุดท้ายก็เข้าเรื่องการเมือง
คุณเพื่อนเสื้อแดงของผมโยนคำถามว่า (ขออนุญาตใช้ภาษาแบบเพื่อนๆ เพื่ออรรถรสนะครับ แต่จะปรับให้สุภาพมากขึ้น) เอ็งคิดยังไง? ที่ทหารปฏิวัติ ทำอย่างนี้ไม่เห็นศีรษะประชาชน บลา บลา บลา
ผมตอบไปว่า เอ็งห้ามเพื่อนคุยเรื่องการเมืองไม่ใช่หรือ คุณเพื่อนเสื้อแดงอึ้ง แล้วบอกว่าสถานการณ์อย่างนี้ต้องการแลกเปลี่ยน เพราะข่าวสารมืดบอดจึงอยากฟัง
ฮ่าๆๆๆ เข้าทางผม โดยผมตั้งข้อแม้ว่า เถียงได้ ตอบโต้ได้ แต่ต้องรอฟังให้ผมพูดจนจบเสร็จสิ้นกระบวนความ ห้ามสอดแทรกระหว่างการบรรยาย เอ้ย! ระหว่างกำลังพูด
คำตอบแรกที่ผมให้กับเพื่อนๆ คือ...
ผมไม่ชอบ ไม่อยากเห็นการรัฐประหารในประเทศเราอีกแล้ว และต่อต้านคัดค้านมาทุกครั้งที่สิ่งนี้เกิดขึ้น ในครั้งนี้ก็ยังยืนยันว่า ไม่ชอบ ไม่อยากเห็น แต่จะยังไม่คัดค้าน ไม่ต่อต้าน ขอนั่งดูการทำงานของคณะรัฐประหารไปก่อน
ผมอุปมา บ้านเมืองมันมีปัญหามากและนานจนเรื้อรัง ทั้งปากท้อง หนี้สิน เศรษฐกิจ ผลพวงประชานิยมขึ้นมาพอสังเขป พร้อมสรุปว่า พวกนี้เหมือนโรคร้ายที่คนเป็นไม่รู้ตัว ทั้งถูกโหมประโคมว่า ต้องกินยาผีบอกจากหมอผีรายหนึ่งจึงแข็งแรง ยิ่งกินยิ่งป่วย ยิ่งกินยิ่งเสพติด ร่างการผ่ายผอม มือเท้าเป็นง่อย อาการโคม่า จะตายวันตายพรุ่งไม่รู้ หมอที่ไหนมาพบตักเตือนเข้าก็ด่าเปิง เพราะไอ้หมอผีมันสอนไว้
สุดท้าย มีคนทนไม่ได้ กระโดดมาลากตัวไปเข้าโรงพยาบาลเพื่อทำการผ่าตัดช่วยชีวิต ช่วยได้หรือไม่ได้ วันนี้ยังไม่มีคำตอบ...แต่ถ้าเอ็งถูกปล่อยให้กินแต่ยาผีบอก เอ็งไม่ได้ตายคนเดียว ลูกหลานเอ็งจะพลอยตายไปด้วย
ครับ...ก็เอาเรื่องเที่ยวมาเล่า อย่าคิดมาก ฮ่า ฮ่า


