ราโชมอน

โดย...คนกวาดหิมะ

วงล้อแห่งความขัดแย้งยังย่ำวนอยู่กับที่ !!!

ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่จุดหมายปลายทางที่สังคมกำลังถูกบีบให้ก้าวเดินไปในเวลานี้ บอกเลยว่าหนีไม่พ้นความรุนแรง

เมื่อแก๊สน้ำตาห่าใหญ่ยังไม่ทันหายคละคลุ้ง เสียงกระสุนยาง กระสุนจริงเริ่มดังก้องตามมาติดๆ ต่อเนื่องด้วยระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ ที่เริ่มถี่และหนักขึ้น

ชวนให้คิดย้อนไปถึงการชุมนุมรอบที่ผ่านๆ มา ว่า เมื่อถึงจุดนี้สเต็ปต่อไปคงหนีไม่พ้น M 79 หรือ ระเบิดอื่นๆ ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

ไม่ต้องมองไกลไปถึงยอดผู้เสียชีวิต จำนวนคนบาดเจ็บที่กำลังไต่จำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่าย่อมต้องถูกหยิบยกมาเป็นเงื่อนไขหาประโยชน์ให้กับฝั่งฝ่ายของตัวเองได้แบบเลือดเย็น

แต่สภาพที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือความชินชากับความรุนแรงถึงขนาดยอมรับ มองว่าเป็นเรื่องปกติของสังคม จนปล่อยให้เกิดขึ้นโดยไม่คิดหาทางสกัดกั้นแม้จะสามารถทำได้ก็ตาม และพร้อมจะกระโดดเข้าร่วมเติมเชื้อฟืนไฟแห่งความโกรธแค้นเข้าห้ำหั่นกันเองเพียงเพราะแนวคิดความเห็นทางการเมืองอยู่คนละฝั่ง

เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนขบวนค้านการจับสลากหมายเลขสมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ หน้าศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทยญี่ปุ่น) กลายเป็นสัญญาณเตือนว่าสังคมกำลังก้าวเข้าสู่วังวนความสูญเสียอีกรอบ

เมื่อต่างฝ่ายต่างมองว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมีเหตุผลชอบธรรมในการก่อความรุนแรง โดยสามารถหรี่ตามองข้ามความผิดตามกฎหมาย หรือแม้แต่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี

อีกทั้งคล้อยหลังการปะทะกันจนบาดเจ็บล้มตาย สงครามข้อมูลข่าวสารก็เริ่มปฏิบัติการกันอย่างดุเดือด จากคลิปชายชุดดำบนกระทรวงแรงงาน คลิปจิตอาสาเผารถตำรวจ คลิปเจ้าหน้าที่ทุบรถอาสาพยาบาล ฯลฯ จนไม่รู้ว่าจะเลือกเชื่อข้อมูลจากฝ่ายไหน

ย้อนให้นึกไปถึง “ราโชมอน” ภาพยนตร์คลาสสิกของ อากิระ คุโรซาวา ที่เป็นเรื่องราวการเล่าเรื่องเหตุการณ์เดียวกันจากมุมมองของแต่ละตัวละครที่ถ่ายทอดออกมาคนละทิศละทางจนไม่รู้จะเชื่อใคร

ในวันนี้สังคมกำลังอยู่ในสภาพเช่นนี้ เมื่อความเป็นพรรคพวก ยึดติดในสีเสื้อ ยึดมั่นในแนวคิดทางการเมือง พร้อมจะทำให้มุมมองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงไป ผู้ร้ายสามารถกลายเป็นพระเอกพระเอกกลายเป็นผู้ร้าย ได้แบบไม่ยากเย็น

อาฟเตอร์ช็อกจากความรุนแรงหน้าศูนย์เยาวชนฯ ไทยญี่ปุ่น เริ่มก่อตัวเป็นแรงกระเพื่อมที่ตั้งเค้ารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อภาพตำรวจประกาศเตรียมแก้แค้นกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกระสุนจริง หรือการเอาคืนเล่นงานแกนนำผู้ชุมนุมว่อนเน็ต ขณะที่อีกฝั่งกระแสประชาชนที่ยังโกรธแค้นประกาศพร้อมเล่นงานเจ้าหน้าที่หากเจอหน้า

ท่ามกลางกระแสสังคมที่ถูกปลุกเร้าเวลานี้แต่ละก้าวย่างจึงสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เรามืดบอดจนมองไม่เห็นความรู้สึกผิดชอบชั่วดี