เอกชนแห่ออกหุ้นกู้ปี’57
โดย...ดวงฤทัย ซื่อตรงประเสริฐ
โดย...ดวงฤทัย ซื่อตรงประเสริฐ
นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินของประเทศไทยในปี 2540 มีผลให้การระดมทุนของภาคเอกชนผ่านสินเชื่อธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงิน|เป็นไปด้วยความลำบากมากขึ้น ตลาดตราสารหนี้ภายในประเทศจึงเริ่มมีบทบาทด้วยต้นทุนของการระดมทุนที่ต่ำ อีกทั้งยังสามารถกำหนดระยะเวลาของการไถ่ถอนให้สอดคล้องกับกระแสเงินของบริษัทได้
ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้นับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา การระดมทุนผ่านหุ้นกู้ของภาคเอกชนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยยอดคงค้างของหุ้นกู้เอกชนระยะยาวเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.3 แสนล้านบาท ในปี 2540 เป็น 1.6 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือน พ.ย. 2556
สำหรับภาพรวมในช่วง 11 เดือนปี 2556 พบว่ามีการออกใหม่รวมมูลค่า 415,658 ล้านบาท และเป็นการเข้ามาระดมทุนของบริษัท 67 แห่ง โดยธุรกิจที่ออกหุ้นกู้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มการเงิน กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ตามลำดับ
สาเหตุที่มูลค่าหุ้นกู้ออกใหม่ในปี 2556 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2555 ที่ระดับ 466,090 ล้านบาท เป็นเพราะในปีที่ผ่านมากลุ่มธนาคารพาณิชย์ออกหุ้นกู้รวมทั้งสิ้นกว่า 1.6 แสนล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินกองทุนตามเกณฑ์ Basel III ขณะที่ออกใหม่ในปีนี้เพียง 2.8 หมื่นล้านบาทเท่านั้น หากนับเฉพาะภาคเอกชนในปีนี้เข้ามาระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์
สำหรับแนวโน้มหุ้นกู้ภาคเอกชนในปี 2557 คาดว่ายังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก (1) เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว อัตราดอกเบี้ยจึงมีโอกาสอยู่ในระดับต่ำไปอีกสักระยะ หรือหากมีการปรับตัวสูงขึ้น ก็น่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ต้นทุนการเงินยังไม่สูงมากนัก
(2) ความผันผวนในตลาดการเงิน ทั้งจากปัจจัยภายในและต่างประเทศ เช่น ความไม่แน่นอนของขนาดคิวอี ที่จะส่งผลกระทบต่อกระแสเงินทุนต่างชาติในตลาดการเงินของไทยต่อไป ทำให้อาจมีเม็ดเงินลงทุนบางส่วนโยกย้ายเข้ามาในตลาดตราสารหนี้เพิ่มมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน เนื่องจากได้รับผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ และมีความผันผวนที่ค่อนข้างต่ำ (3) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุญาตให้มีการเสนอขายตราสารหนี้ที่ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bonds) ให้กับแก่นักลงทุนประเภท Accredited Investors (AI) ซึ่งประกอบด้วย นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่
อีกทั้งยังอนุญาตให้บริษัทจัดการลงทุนสามารถจัดตั้งกองทุนรวมสำหรับผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย ที่สามารถลงทุนใน Unrated Bonds หรือตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่า Investment Grade (AI fund : High yield bond fund) ได้โดยไม่จำกัดอัตราส่วนการลงทุน การผ่อนคลายกฎเกณฑ์เหล่านี้ ทำให้คาดว่าน่าจะมีการออกตราสารหนี้เอกชนประเภท Unrated Bonds เพิ่มมากขึ้น และจะช่วยให้แนวโน้มของตลาดหุ้นกู้ในปีหน้าเติบโตขึ้นได้อีก
นอกจากนั้น ตลาดหุ้นกู้ยังมีความน่าสนใจในอีกหลายด้าน ทั้งผู้ออกที่สามารถระดมทุนด้วยต้นทุนทางการเงินที่ถูกกว่าการกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ และช่วยสร้างโอกาสให้บริษัทเป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงในแง่ของผู้ลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ โดยที่มีความเสี่ยงในระดับใกล้เคียงกัน และยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ทำให้คาดว่าในปี 2557 ตลาดหุ้นกู้เอกชนน่าจะมีพัฒนาที่ดี และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีนี้และปีที่ผ่านมา


