แรงกว่าโกงข้อสอบ

โดย...ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว

บ่อยครั้งที่ได้เห็นลูกเต้าเหล่านักการเมืองพาเหรดเข้าสู่สนามการเมือง ทั้งๆ ที่บางคนไม่ประสีประสาการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่รู้แม้แต่หลักกฎหมายพื้นฐาน กล่าวกันตามประสา ยังละอ่อนทางการเมืองนัก

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า หนุ่มสาวหน้ามนทั้งหลายที่ไม่เคยเป็นที่รู้จักมักคุ้น แต่สามารถก้าวสู่ตำแหน่งนักการเมืองท้องถิ่น หรือการเมืองระดับชาติ ล้วนมาจากพ่อแม่นักการเมืองส่งเสีย จะด้วยเหตุผลที่พ่อแม่เผชิญอุบัติเหตุทางการเมืองโดนเว้นวรรค จึงจำเป็นต้องถ่ายเลือดให้เข้ามารักษาผลประโยชน์ที่พวกตนก่อร่างสร้างไว้

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย ต้องการทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงเพื่อปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง ประเภทนี้ต้องต่อสู้ด้วยทุนรอนของตัวเอง ไร้บารมีไม่มีป๋าดัน การจะฝ่าด่านเข้าสภาหินอ่อนไม่ใช่เรื่องง่าย

กรณีกระแสข่าว “หนุ่มโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะลงสมัคร สส. ประชาชนที่ติดตามข่าวสารใช้วิจารณญาณได้ ควรจัดอยู่ในประเภทไหน แม้ล่าสุด “หนุ่มโอ๊ค” จะประกาศไม่สนใจเล่นการเมือง แต่ในอนาคตหากเปลี่ยนใจลงสมัคร ก็คงไม่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยรายใดขวาง

เพียงแต่ต้องทุบโต๊ะซ้ำ การเป็นลูกอดีตนายกฯ เมื่อตัดสินใจลงเล่นการเมือง ย่อมถูกจับจ้องโดนตรวจสอบมากเป็นพิเศษ ยิ่งทำงานการเมืองไม่เหมือนนั่งทำข้อสอบ มีตัวอย่างให้เห็นแล้วนักการเมืองทุจริตเลือกตั้ง โกงบ้านกินเมืองย่อมได้รับโทษร้ายแรงกว่าโกงข้อสอบแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องสำนึกถึงความซื่อสัตย์สุจริตเป็นสำคัญ