ยิ่งตอกยิ่งแตก

โดย...ชุษณ์วัฏ ตันวาณิช

หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า มีขบวนการขั้วตรงข้ามอาศัยฤกษ์งามยามดีหวังล้มรัฐบาลให้ได้ภายในวันที่ 8 ต.ค. ปลุกความหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้แก่มวลชนฝ่ายหนุนรัฐบาลไปทั่ว

คล้อยหลังไม่ทันไร วรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาปูดซ้ำไปถึงขั้นแบ่งประเทศไทยออกเป็น 2 ส่วน ขีดเส้นกั้นตั้งแต่ จ.เพชรบุรี ลงไป หั่นแดนไทยเป็นเหนือใต้ตามฐานเสียงพรรคการเมือง ประหนึ่งเหมือนโมเดลแบ่งชาติเกาหลีเป็นเหนือใต้

แม้ตามแผนเข้าใจได้ว่า ทั้งอดีตนายกฯ ทักษิณ และวรชัย หวังเดินหมากเดียวกัน โหมพลังประชาชนฟากหนุนรัฐบาลให้ตื่นตัว ออกมาดักทางบรรดาองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญที่มีคดีการแก้ไขกฎหมายและการร้องเรียนการทุจริตเชิงนโยบายอยู่ในอุ้งมือ แต่คำถาม คือ การปูดข่าวแบ่งแยกประเภทนี้ ใช่วิธีการหาทางออกอันสมควรของพรรคเพื่อไทยหรือไม่

ด้วยกระแสข่าวเชี่ยวกรากรายวัน การตามเสพข้อมูลที่ไม่เท่าทันนักการเมืองมีสูง กอปรกับสภาพความขัดแย้งในสังคมไทยเชิงโครงสร้างที่สะสมตัวจนสร้างบาดแผลร้าวลึกอย่างไม่เคยมีมาก่อน ฝ่ายการเมืองจึงควรใคร่ครวญว่าเทคนิคการปล่อยข่าวในประเด็นอ่อนไหว ยิ่งจุดไฟเพิ่มความขัดแย้งเช่นนี้ นำพาให้ประเทศชาติดีขึ้นหรือจะยิ่งตอกลิ่มบนแผ่นดินให้ร้าวลึกไปกว่าเดิม

ทุบโต๊ะได้เลยว่า หากยังคงอาศัยยุทธวิธีนำความรู้สึกของประชาชนมาเป็นเครื่องมือช่วงชิงกระแสเพื่อสร้างอำนาจต่อรองทางการเมืองในเชิงไม่สร้างสรรค์ลักษณะนี้ นำค้อนในมือเลือกตอกตะปูลงไปแทนที่จะงัดขึ้น ต่อไปประชาชนจะยิ่งรู้ทันและก้าวข้ามหัวนักการเมือง นำมาสู่การเสื่อมศรัทธาและส่งผลต่อการกาบัตรเลือกตั้งในที่สุด