ลอยแพประชาชน

โดย...ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว

เริ่มต้นเดือน ก.ย. ประชาชนคนเดินดินก้มหน้ารับสภาพค่าครองชีพขึ้นไม่หยุด

พลิกดูเมนูระทมทุกข์ อาทิ ไข่ไก่แพงที่สุดตั้งแต่มีประเทศไทยตกฟองละ 5 บาท ขณะที่ในห้างสรรพสินค้าราคาไข่ไก่ 7 บาท ก๊าซหุงต้มตกกิโลกรัมละ 6 บาท เฉลี่ยถังละ 390 บาท หรือขึ้น 30% ในเวลา 12 เดือนข้างหน้า ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอฟที ขึ้นอีก 7.08 สตางค์ต่อหน่วย ค่าทางด่วนขึ้นราคา 5-10 บาท หรือ 12%

มิพักกล่าวถึงราคาข้าวแกงที่ปรับขึ้นล่วงหน้าต้อนรับราคาก๊าซไปแล้วจานละ 35-40 บาท หากใส่ไข่หรือขอพิเศษราคาจานละเกือบครึ่งร้อยบาทขึ้นไป

ผ่านมาถึงวันนี้รัฐบาลภายใต้การนำของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นิ่งดูดายต่อสถานการณ์ดังกล่าว มีแต่คำอธิบายในคีย์เดียวกันเป็นไปตามกลไกตลาดบ้าง เป็นไปตามสัญญาสัมปทานบ้าง

ทำให้นึกถึงนโยบายของกระทรวงพาณิชย์เคยได้รับการอนุมัติงบประมาณหลายพันล้านสนับสนุนร้านโชว์สวยขายสินค้าราคาประหยัด ปรากฏว่าสถานการณ์ของร้านค้าส่วนใหญ่ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด แทบจะปิดร้านทำกิจการใหม่เพราะไม่อาจแบกรับภาระขาดทุนได้

แม้แต่แนวทางคิดอะไรไม่ออกบอกธงฟ้า ซึ่งเป็นเหมือนคัมภีร์วิเศษที่รัฐบาลชุดปัจจุบันมักเข็นออกมาใช้ในยามข้าวแกงแพงขึ้นราคาก็ดูท่าจะเอาไม่อยู่ในเมื่อราคาวัตถุดิบในการประกอบอาหารปรับเพิ่มอย่างรวดเร็ว

ทุบโต๊ะ ได้เลย รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาค่าครองชีพพุ่งกระฉูดได้ ส่วนประชาชนคนไม่รวยต้องรณรงค์คุมเข้มชีวิตกันเองด้วยการกินแต่น้อยอดออมเข้าไว้เดี๋ยวจะยากนาน