ขาถ่างห่างออกไป

โดย....อสนีบาต  

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกำลังเดินหน้าทำภารกิจคู่ขนาน ขาข้างหนึ่งก้าวลงทุนครั้งสำคัญในโครงการรถไฟความเร็วสูง ขาอีกข้างย่างก้าวสู่เวทีสภาปฏิรูปการเมือง

แต่โปรดระวังขาสองข้างที่กำลังก้าวฉับๆ ลงทุนรถไฟ  สร้างการเมืองอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจะทำให้ขาถ่างห่างออกไป

กรณีโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ต้องกู้วงเงิน 2 ล้านล้านบาทจากที่วาดเส้นทางสวยหรู ขึ้นเหนือ เชื่อมอีสานล่องใต้ แต่หน่วยงานเกี่ยวข้องยอมรับอาจต้องปรับลดเส้นทาง

นายกฯ อุตส่าห์จัดทัวร์ปู๊นปู๊นเมื่อสัปดาห์ก่อนต้องการโชว์ไอเดียพัฒนาระบบราง สร้างรถไฟความเร็วสูงถึงชะอำ-หัวหินแต่จำความได้ว่าสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพิ่งประเมินเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน มีผู้โดยสารไม่มากนัก ถ้าไม่คุ้มทุนอาจชะลอหรือปรับแผน

ก่อนหน้านี้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์รมว.คมนาคม เคยออกมายอมรับ เส้นทางใดไม่คุ้มทุนก็ไม่ต้องสร้าง บางเส้นทางผ่านพื้นที่ทหารอีก เขตทหารห้ามเข้าจึงต้องศึกษาหาทางเลี่ยงเส้นทาง

เมื่อปรับงบ ตัดเส้นทาง ยังไม่นับรวมประเด็นข้อกฎหมายขัดต่อการมีส่วนร่วมรับฟังความคิดเห็นประชาชน ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมรอบด้าน กลายเป็นว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงคงได้วิ่งบริเวณรอบปริมณฑลแข่งความเร็วกับแอร์พอร์ตลิงค์หรือไม่ได้สร้างกระมัง

เช่นเดียวกับขาปฏิรูปการเมืองที่ก้าวข้ามขั้นตอนแทนที่ควรทำตั้งแต่เริ่มบริหารประเทศ แต่กลับโชว์ความตั้งใจเมื่อปีที่สองในจังหวะที่ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผ่านวาระแรก และกำลังตามมาด้วยการให้สภาพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายกฯ ตั้งเวทีบอกกล่าวประชาชน ต้องการระดมทุกสีเสื้อทุกฝ่ายการเมืองร่วมตั้งสภาปฏิรูปการเมืองแต่ถามจริง ยิ่งลักษณ์เข้าใจปฏิรูปการเมืองขนาดไหน ทุกวันนี้ ที่เข้ามาในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รู้เช่นเห็นชาตินักการเมืองไทยประเภทโชว์เกือกนิรโทษกรรมกลางสภา คนแบบนี้ควรปฏิรูปหรือไม่

เมื่อไปทาบทามคนโน้นคนนี้มาร่วม แต่ติดเงื่อนไขต่างๆ นานา  บางรายเป็นที่รับรู้ไม่ต่างกับซากโบราณวัตถุทางการเมือง เป็นทั้งผู้สนับสนุนหลักรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น บรรหาร ศิลปอาชา  พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ  กระมล ทองธรรมชาติ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ  ทำให้สภาปฏิรูปดูจะไม่ต่างกับสภาจับฉ่าย 

ย่อมสะท้อนให้เห็นสิ่งที่ทำคู่ขนานทั้งโชว์ความแข็งขันลงทุนรถไฟสร้างชาติ อยากปฏิรูปการเมือง ก็แค่สร้างภาพเฉี่ยวๆ โฉบๆไปวันๆ ไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง