หึ่งกระฉ่อนโลก

โดย...ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว

หาก ปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองเหยียดหยามกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านโครงการบริหารจัดการน้ำ

ป่านนี้ผู้คนทั่วบ้านทั่วเมืองอาจไม่รู้ว่าประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 2 ที่ จ.เชียงใหม่ จนต้องหันมาให้ความสนใจเกาะติด

เหมือนอย่างที่ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ เปรยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการระบุกรณีสื่อมวลชนประโคมข่าวปลอดประสพรับบทเป็นพระยามังราย พร้อมให้สัมภาษณ์โจมตีองค์กรภาคประชาชน ยิ่งทำให้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการประชาสัมพันธ์การประชุมน้ำระดับเอเชียครั้งนี้ เพราะปลอดประสพได้ช่วยโปรโมทให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มุมมองของ ครม.ที่มีต่อปลอดประสพอาจมองโลกในแง่ดีที่ได้ทำให้ผู้คนรู้จักการประชุมน้ำระดับโลกมากขึ้น

แต่อีกมุมหนึ่งก็ทำให้กลุ่มองค์กรที่ติดตามตรวจสอบโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้รู้จัก “นักการเมือง” มากขึ้นโดยเฉพาะคนเป็นรัฐมนตรีที่มองการชุมนุมเป็นเรื่องน่ารังเกียจไม่ต่างกับขยะสังคมเพราะนั่นเป็นคำพูดที่ออกมาจากปลอดประสพเอง

สภาพการณ์เช่นนี้ จึงทุบโต๊ะได้เลย แทนที่รัฐบาลจะได้โชว์ศักยภาพบริหารจัดการน้ำสร้างภาพลักษณ์โด่งดังไปทั่วพื้นปฐพี แต่การประชุมครั้งนี้จะเป็นอีกเวทีให้ทั่วโลกได้จดจำชนชั้นปกครองในรัฐบาลยิ่งลักษณ์เช่นกัน

แท้ที่จริงก็มีวิธีคิดผลักไสไล่ส่งกลุ่มประชาชนในประเทศที่ปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบนี้นี่เอง