ไม่ตั้งทูตแสบ

โดย...ชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์

เสียงเรียกร้องจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ส่งถึงรัฐบาลให้ดึง วีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร มาเป็นกรรมการในคณะกรรมาธิการปักปันเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา หรือ (เจบีซี) อีกหนึ่งหน้าที่

เพื่อใช้คุณสมบัติของทูตวีรชัยมาจัดการปัญหาพิพาทในพื้นที่ 4.6 ตร.กม. หลังโชว์ผลงานชี้แจงด้วยวาจาต่อศาลโลก ซึ่งสามารถนำข้อมูลมาหักล้างฝ่ายกัมพูชาใช้อ้างได้อย่างอยู่หมัด จนกลายเป็นที่ตอบรับของคนไทยทั้งชาติ

ทว่า ข้อเสนอฝ่ายค้านดูเหมือนไร้ผล เมื่อ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ พูดชัดหลังเดินทางกลับจากกรุงเฮก ว่า “มีทูตท่านอื่นสามารถดำเนินการแทนได้ อีกทั้งยังต้องการให้ท่านวีรชัย ได้มีเวลาทำงานสู้คดีพระวิหารได้อย่างเต็มที่”

อย่างไรก็ดี หากดูภาระท่านทูตเวลานี้ คงไม่ต้องอธิบายให้มากความ แม้การชี้แจงด้วยวาจาจะเสร็จสิ้น ทว่าหน้าที่ใช่ยุติเพียงเท่านั้น ยังคงต้องประจำการ ณ กรุงเฮก ในฐานะทูตและหัวหน้าทีมสู้คดีเพื่อดูแลความเรียบร้อยเอกสารกันขาดตกบกพร่อง จนอาจสุ่มเสี่ยงให้ไทยพลาดท่าต่อกัมพูชา

อีกทั้งไม่ค่อยปรากฏนักที่กระทรวงจะตั้งบุคคลระดับทูตมาทำหน้าที่กรรมการเจบีซี มีเพียงแต่งตั้งข้าราชการระดับอธิบดีซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องมารับผิดชอบ เพื่อความคล่องตัวในการเดินทางไปร่วมประชุมแล้วกลับมารายงานต่อรัฐบาล

ทุบโต๊ะเลยว่ารัฐบาลนี้จะไม่ตั้งทูตวีรชัย ขวัญใจชาวไทยมาเป็นกรรมการเจบีซี ข้อสำคัญเพราะท่านทูตหลุดตำแหน่งนี้ในยุครัฐบาลพลังประชาชน จะเป็นการตอกย้ำภาพที่เคยปฏิเสธ “ทูตแสบ” มาแล้วครั้งหนึ่ง...