posttoday

ยังกะตาเห็น

04 เมษายน 2556

คุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หนีโทษจำคุก 2 ปี ไปพำนักอยู่ดูไบ กำลังเปิดแนวรุกใหม่เพื่อสื่อสารกับบริวาร ด้วยการเปิดเฟซบุ๊ก

โดย...สันทัด กรณี

คุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หนีโทษจำคุก 2 ปี ไปพำนักอยู่ดูไบ กำลังเปิดแนวรุกใหม่เพื่อสื่อสารกับบริวาร ด้วยการเปิดเฟซบุ๊ก

ขอบคุณท่านพานฯ เสี่ยโอ๊ค ชินวัตร ที่ได้เอาข่าวคราวความคืบหน้าของพ่อมาแจ้งให้ทุกคนได้ทราบ โดยแจ้งว่า วานนี้เป็นฤกษ์งามยามดี 3-4-56 คือ วันที่ 3 เดือน 4 ปี 56 คุณเตี่ยของเสี่ยโอ๊คเลยถือโอกาสนี้จับปากกาเขียนเฟซบุ๊ก และเปิดเฟซบุ๊กใหม่เพื่อสื่อสารกับคนไทยให้ได้ทราบข่าวคราว และเพื่อความชัดเจนว่าเป็นตัวจริง จึงได้ประเดิมการเขียนด้วยลายมือของตัวเองเป็นครั้งแรก และหลังจากนี้จะพิมพ์เองและโพสต์ด้วยตนเองด้วย โดยที่ไม่ได้ใช้ชื่อ Thaksinlives แล้ว

ใครคิดถึงลองดูได้ครับ www.facebook.com/ thaksinofficial ถ้าไม่รู้จะโพสต์ไปคุยเรื่องอะไร เริ่มจากเรื่องนี้ก็ได้

ปัจจุบันการสื่อสารระหว่างมนุษย์รวดเร็วและครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ ใครทำดีหรือทำอะไรไม่ดีไว้อย่างไรโลกรู้หมด

ครับ...ล่าสุด “เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์” สื่อดังของฮ่องกง นำเสนอบทวิเคราะห์ของ “ฟิลิป เจ. คันนิงแฮม” นักวิจัยทางด้านสื่อสารมวลชนและนักเขียนอิสระ ในหัวข้อ “ทักษิณพูดมากก็จริง แต่มีใครฟังบ้างหรือเปล่า?” โดยมีใจความว่า การเมืองไทยไม่เคยลดความน่าตื่นเต้นลงไป ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังมีปัญหาในกรณีรายงานทรัพย์สินที่บกพร่อง ซึ่งทำให้ตำแหน่งนายกฯ ของเธออยู่ในอันตราย แต่นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวของเธอก็ได้รับการวางตัวไว้ทดแทนแล้ว

ฮ่า ฮ่า ฮ่า “เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์” ซัดว่า...

“การจัดการควบคุมน้องสาวทั้งสองในฐานะตัวแทนทางการเมือง เป็นเหมือนเชือกที่ถูกดึงเพื่อทิ่มแทงประเทศไทย ที่มีการบริหารแปลกประหลาดและน่าละอายอย่างที่สุด ที่ได้อนุญาตให้ความเป็นผู้นำของประเทศถูก “ไฮแจ็ก” ไปโดยคนไม่ปกติ ร่ำรวย และทะเยอทะยาน ผู้เนรเทศตัวเองอยู่ในดูไบ”

บทวิเคราะห์มีต่ออีกว่า ทักษิณโทรศัพท์เข้าไปยังการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปีที่แล้ว ว่ามวลชนไม่ต้องอาลัยเขาอีกต่อไป เพราะกำลังจะได้กลับบ้านแล้ว แต่กระทั่งสิ้นปีเขาก็ไม่ได้กลับดังที่วาดหวังไว้ เนื่องจากแผนการนิรโทษกรรมได้รับการคัดค้านและถูกระงับยับยั้งไว้ ทำให้ทักษิณอยู่ในภาวะขุ่นเคืองสุดขีด

ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์เองกลับปรากฏว่าได้รับความนิยมมากกว่าทักษิณเสียอีก ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสคริปต์ในตอนที่ทักษิณตั้งเธอขึ้นสู่อำนาจ และสิ่งที่เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือเมื่อทักษิณพูด ไม่มีใครฟังอีกแล้ว...

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทักษิณได้เดินทางไปยังประเทศต่างๆ บริเวณพื้นที่ชายแดนที่ติดกับไทย ทำตัวเหมือนว่าเป็นทูตของรัฐบาลไทย แต่การกล่าวอ้างของเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่าการปกครองผ่านตัวน้องสาวหุ่นเชิด ที่ในช่วงหลังเธอได้แสดงออกถึงความเป็นอิสระจากพี่ชายมากขึ้นทุกที...

สื่อฮ่องกงฉบับนี้สรุปปิดท้ายว่า ทักษิณกำลังมองหาหนทางใหม่ที่จะยกมือขึ้นเรียกร้องความสนใจจากประชาชน และโปรโมตวาระส่วนตัวของเขาต่อไป