ตื่นเถิดชาวไทย
รัฐบาลใช้เสียงข้างมากในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ผ่านสภาในวาระแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
รัฐบาลใช้เสียงข้างมากในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ผ่านสภาในวาระแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และแน่นอนว่ารัฐบาลก็หมายมั่นปั้นมือจะใช้พวกมากในสภา ในการดึงดันเพื่อให้ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ ผ่านออกมาเป็นกฎหมาย
เพราะอย่างที่รู้ เงินกู้มหาศาล 2.2 ล้านล้านบาท มันหมายถึงผลประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเมือง ในการนำเอาสารพัดโครงการลงพื้นที่ของพรรครัฐบาล เพื่อใช้ในการหาเสียง
หรือแม้กระทั่งผลประโยชน์จากการทวนน้ำ ตามน้ำ ใต้น้ำ บนโต๊ะ ใต้โต๊ะ มหาศาล เรียกว่าไม่เคยเห็นกันมาก่อน
มากแค่ไหน การอภิปรายในสภาที่ผ่านมาก็แสดงไว้ชัดพอสมควร
เงินเหล่านี้จะเอามาซื้ออำนาจ ควบรวมกิจการประเทศไทย ทำให้เกิดการครองอำนาจทางการเมืองอย่างยาวนานก็ย่อมได้
หรือถ้าคิดถึงขั้นจะผูกขาดอำนาจกันหลายชั่วคนก็มีสิทธิได้สมหวัง ถ้าร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านออกมา
แต่นั่นแหละ ยังมีประเด็นหลายประเด็นที่จำเป็นต้องแสดงให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะจะได้รู้ว่าประเทศนี้อะไรจะเกิดขึ้น และเป็นฝีมือใคร
และที่สำคัญ จะได้รู้วิธีการหลอกประชาชน โดยไม่ใช่การหลอกสีขาว แต่เป็นการหลอกกันซึ่งหน้าชนิดไม่ละอายหรือเกรงกลัวต่อบาปแม้แต่น้อย
เริ่มจากร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ ไม่สมควรจะเรียกว่าร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท แม้แต่น้อย เพราะเนื้อแท้แล้ว มันเป็นการสร้างหนี้
ชื่อที่เหมาะกับร่างกฎหมายนี้ คือร่าง พ.ร.บ.ก่อหนี้ 5 ล้านล้านบาท เสียมากกว่า
สาเหตุเนื่องจากเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทนั้น เอาเข้าจริงปรากฏว่าจะต้องเสียดอกเบี้ยอีกบานตะเกียงถึง 3 ล้านล้านบาท และมีการยอมรับกันในสภาว่าเป็นจริง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยบอก ไม่เคยกล่าว อมพะนำกันมาตลอด
นั่นหมายความว่า ภาระบ้านเมืองที่ประชาชนคนไทยต้องแบกหนี้ ก็คือ 5 ล้านล้านบาท ไม่ใช่ 2.2 ล้านล้านบาท
การสร้างวาทกรรมทางการเมือง การสร้างความเข้าใจผิด ซุกหนี้ที่แท้จริง แสดงออกให้เห็นชัดอีกครั้ง ในร่าง พ.ร.บ.ก่อหนี้ครั้งนี้ แรกเริ่มเดิมทีก็พูดเฉพาะ 2.2 ล้านล้านบาท แต่เอาเข้าจริงหนี้ก็บานไปถึง 5 ล้านล้านบาท
ยัง ยังไม่หมด ยังมีอีกหลายประเด็นที่เป็นจุดเสี่ยง เป็นอันตรายที่ประชาชนหวั่นเกรงว่าจะเป็นการกู้มาโกง หรือกู้มาก่อหนี้ก็ตามที
เป็นอย่างไร พรุ่งนี้โปรดติดตามกันต่อไป
งานนี้ต้องถึงขั้นบอกว่า ตื่นเถิดชาวไทย


